ผู้ว่าเพชรบูรณ์ ผุดโครงการ ‘ป้าข้างบ้าน’ แจ้งเบาะแสโควิด ชี้ได้ผลเกินคาดไม่พบผู้ป่วยกว่าเดือน จ่อหามาตรการผ่อนปรน
วันที่ 14 ม.ค.2564 นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์กระแพร่ระบาด โควิด 19 ในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์พบผู้ติดเชื้อเพียงรายเดียวเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2563 และได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลหนองไผ่ ขณะนี้ได้หายเป็นปกติสามารถกลับบ้านได้แล้ว
ขณะนี้กลับไปกักตัวดูอาการอีก 14 วัน ซึ่งก็จะครบในอีก 1-2 วันนี้ และจากการตรวจผู้ใกล้ชิดก็ไม่พบการติดเชื้อแต่อย่างใด นอกจากนั้นในกรณีที่มีนักท่องเที่ยวจากสมุทรสาครที่ป่วยติดเชื้อโควิท 19 มาเที่ยวภูทับเบิก เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.-1 ม.ค. 64 ที่ผ่านมา ได้มีการลงพื้นที่ทำความสะอาด รวมทั้งนำผู้ใกล้ชิดมาตรวจหาเชื้อปรากฏว่าไม่มีผู้ติดเชื้อแต่อย่างใด แต่ก็ให้กักตัว 14 วัน ซึ่งก็จะครบในวันที่ 15 ม.ค.64
ดังนั้นจึงถือได้ว่าจังหวัดเพชรบูรณ์ไม่พบเชื้อโควิด 19 มาเกือบ 1 เดือนแล้ว ขณะนี้จังหวัดเตรียมที่จะหามาตรการผ่อนคลาย ซึ่งถ้าหลังวันที่ 17 ม.ค. เพชรบูรณ์ไม่มีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็จะมีการปรึกษากับทางสาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ ว่ามีมาตรการต่างๆที่ จังหวัดเพชรบูรณ์ประกาศใช้เพื่อควบคุมโควิด-19 มีมาตรการใดบ้างที่จะช่วยผ่อนคลายให้กับประชาชน ให้ได้ทำกลับมาใช้ชีวิตทำมาหากินใกล้เคียงการใช้ชีวิตเดิมมากที่สุด
แต่ก็ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขควบคุมและป้องกันโรคที่มีประสิทธิภาพที่สุด และขอให้พี่น้องประชาชน จังหวัดเพชรบูรณ์ อดทน ทางหน่วยงานราชการทุกฝ่าย มีความเป็นห่วงและรู้ถึงความลำบากของทุกคน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวอีกว่า ผลสาเหตุของการควบคุมสถานการณ์ได้จนเกือบเข้าสู่ภาวะปกตินี้เป็นความร่วมมือ ร่วมใจของเจ้าหน้าที่และพี่น้องประชาชนที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยเฉพาะตนได้จัดให้มีการทำเพจ “ป้าข้างบ้าน” เป็นการตั้งเฟซบุ๊กขึ้นมา เพื่อให้คนที่ทราบข้อมูลข่าวสาร เกี่ยวกับผู้ลักลอบเข้าจังหวัดเพชรบูรณ์ แล้วไม่ปฏิบัติตามกฎกติกา ก็สามารถแจ้งมาทางเฟซบุ๊กป้าข้างบ้านได้
ซึ่งจะมีแอดมินคอย ประสานงานไปยังจุดที่ท่านแจ้งมา และส่งต่อให้ทางด้านอำเภอนั้นๆ ก็จะจัดชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าไปบล็อก ตรวจสอบข้อเท็จจริงจะช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับชาวจังหวัดเพชรบูรณ์
“สาเหตุที่ตั้งชื่อนี้เพราะว่าในสังคมเป็นที่รู้ดีว่าป้าข้างบ้านจะชอบสอดส่องดูความเคลื่อนไหวของเราตลอดเวลาจึงเป็นที่มาของชื่อ ที่ผ่านมาได้มีการแจ้งเบาะแสเข้ามาอย่างต่อเนื่องและจังหวัดก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบและดำเนินการได้อย่างทันท่วงที”
