คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เปิดเผยอาการ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เผยต้องเจาะคอเพื่อดูดเสมหะ ลดอาการอักเสบ เผยอาการล่าสุด
ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวถึงความคืบหน้าอาการของนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ว่า ขณะนี้ได้เจาะคอเพิ่มเติม เพื่อดูดเสมหะให้ได้มากขึ้น และลดการอักเสบ เพราะผู้ที่ใส่ท่อนานๆ จะทำให้เกิดปัญหานี้ การเจาะคอ จะช่วยให้ไม่รู้สึกอึดอัด เมื่อดูดเสมหะได้มากขึ้น ก็เชื่อว่าจะเรียบร้อยดี ภายหลังจากการเจาะคอ พบว่าสามารถรับออกซิเจนได้ดีขึ้น ลมเข้าปอดได้ดี ควบคุมการหายใจได้ดี การติดเชื้อ ไข้ลดลง ให้ยาปฏิชีวนะตอบสนองได้ดี
ศ.นพ. ประสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมคณะแพทย์อีกครั้ง เมื่อนำตัวผู้ว่า เอ็กซ์เรย์ คอมพิวเตอร์ ตรวจดูการทำงาน ปอด ว่า โควิดได้เข้าไปทำลายเนื้อปอดมากน้อยแค่ไหน และเหลือเนื้อปอดอยู่เท่าไหร่ เพราะเป้าหมายเมื่อ ผู้ว่าฯ กลับบ้านต้องไม่ใส่เครื่องช่วยหายใจ และได้ดูไปถึงการทำงานของสมองด้วย
“จากการตรวจหาเชื้อโควิดในผู้ว่าฯ ไม่พบ โควิด ผลการทำเอ็กซเรย์คอมฯ ปอดมีการอักเสบ และเนื้อปอดบางส่วนมีพังผืดเกิดขึ้นแสดงว่า โควิด เข้าไปทำลายเนื้อปอด และทิ้งรอยไว้ ส่วนหลอดเลือดในปอดเรียบร้อยดี ดูสมองก็เรียบร้อยดี ทำให้สบายใจมากขึ้น โดยวันนี้ จะมีการดูดน้ำออกจากหลอดลม เพื่อนำตรวจโควิดอีกครั้ง และดูการอักเสบ และดูถึงระดับเซลล์ในหลอดลม เพื่อเตรียมให้ยาบางอย่าง
ลดการอักเสบ และยาลดการสร้างพังผืดในปอด ซึ่งต้องรอดูผลการให้ยาใน 72 ชม. ว่าระบบทุกอย่างดีขึ้นหรือไม่ ทั้งลดการอักเสบ การติดเชื้อ”
ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า การเจาะคอของผู้ว่าฯผ่านมา 48 ชม. คนส่วนใหญ่มักตกใจ ถ้าเห็นคนไข้หนัก เจาะคอ และกล่าวว่าขณะนี้พยายามซื้อเวลาควบคุมการติดเชื้อในปอดและจำเป็นต้องทำ การปลูกถ่ายปอด ยังไม่ถึงเวลา คนทั่วโลกมีการพูดถึงกันเรื่อง มีการรายงานในวารสารการแพทย์ว่า โควิดเข้าทำลายเนื้อปอดจนไม่เหลือและไม่สามารถหายใจได้ตัวเอง ออกซิเจนในเลือด ไม่พอ บางประเทศมีการเปลี่ยนปอด เอาปอดของคนอื่นมาใส่แต่ไม่ใช่ทุกรายทำแบบนี้ การรักษาอยากให้อยู่ด้วยอวัยวะของตัวเอง มากกว่า วิธีนี้จึงเป็นวิธีสุดท้าย พร้อมยอมรับ ที่ผ่านเคยมีคนไข้โควิดอาการหนักเจาะคอ บางคนก็ใช้ปอดเทียม บางคนก็รอดชีวิต และบางคนก็เสียชีวิต ฉะนั้นอย่าคิดว่าโควิดรอบนี้ไม่หนัก เพราะคนที่มีอาการหนักก็รุนแรงมาก