ศบค.ห่วงป่วย ‘โควิด’ ในครอบครัว หลังพบคนทำงานนำเชื้อไปแพร่ให้เด็ก 3 คน ย้ำมีความเสี่ยงแค่ 2 วันก็แพร่เชื้อได้ สถานกักตัว ตม. พบตร.ป่วย 3 นาย

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

เมื่อวันที่ 31 มี.ค.64 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) กล่าวว่า การติดเชื้อในครอบครัวยังน่ากังวล อย่างการติดเชื้อวันนี้ใน กทม. สมุทรสาคร และสมุทรปราการ พบการติดเชื้อเด็กอายุ 12 ปี 4 ปี และ 13 ปี ซึ่งติดเชื้อจากวัยทำงานที่ออกไปทำงานนอกบ้านแล้ว เอาเชื้อมาติดเด็กหรือผู้สูงอายุที่ไม่ได้ไปพื้นที่เสี่ยง เป็นก้อนใหญ่ที่ต้องติดตาม หรือกรณีสมุทรปราการที่เคยรายงานไปแล้ว พบว่าผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นหญิงอายุ 28 ปี ตรวจพบติดเชื้อวันที่ 22 มี.ค.

สอบสวนโรคเบื้องต้นมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 5 ราย ต่อมาจึงพบสามีและเพื่อนร่วมงานติดเชื้อ และเพื่อนร่วมงานที่เป็นหญิงอายุ 25 ปี ก็ไปสัมผัสกับบุคคลรอบตัว คนในครอบครัว ทำให้มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 6 คน และทำให้น้องสาว ลูกชายอายุ 1 ปี 7 เดือน และพี่เลี้ยงเด็ก ติดเชื้อในครอบครัวด้วย

“ปรากฏการณ์ลักษณะนี้เราเห็นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราไปที่ชุมชนมีการระวังตัว อาจเผลอบ้างเอาหน้ากากออกระหว่างกิน ไปสัมผัสพื้นที่เสี่ยงไม่ได้ล้างมือหรือเว้นระยะ เมื่อเกิดการติดเชื้อ ซึ่งกรมควบคุมโรคย้ำว่า เพียง 2 วันก็นำเชื้อไปแพร่คนในครอบครัวได้ จึงขอให้ระวังในเรื่องนี้” พญ.อภิสมัย กล่าว

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ส่วนกรณีการติดเชื้อในสถานกักตัวของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กทม. พบข้าราชการตำรวจติดเชื้อ 3 นาย และบุคลากรที่ทำงานอยู่ในสถานกักกันติดเชื้อร่วมด้วย เป็นแผนกครัวที่ต้องปรุงอาหารดูแลผู้ต้องกัก เสิร์ฟอาหารแก่ผู้ต้องกัก ผู้ทำความสะอาด แม่บ้าน คนครัว จึงมีการทบทวนแผนการกระจายวัคซีน โดยในกทม. จะให้วัคซีนบุคลากรเสี่ยงสูงในศูนย์กักเหล่านี้

สำหรับวัคซีนของซิโนแวค 8 แสนโดสเดิมจะฉีดกระจายไปครอบคลุม 22 จังหวัดเสี่ยงและเศรษฐกิจท่องเที่ยวและชายแดน ก็จัดสรรเพิ่ม 1.6 แสนโดสให้ครอบคลุม 52 จังหวัด เพื่อเตรียมพร้อมก่อนจะได้วัคซีนล็อตใหญ่ มิ.ย.นี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน