‘อนุทิน’ ยันฉีดวัคซีนโควิด-19 ลดเจ็บป่วยและเสียชีวิต 100% ตั้งเป้าเป็นชาติแรกในอาเซียน ฉีดครอบคลุมประชากรมากสุด เร่งกระจายทั่วประเทศภายในมิ.ย.

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

เมื่อวันที่ 1 เม.ย.2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือ “เปิดเมืองปลอดภัย จัดงานไมซ์มั่นใจ ด้วยมาตรฐาน” ใน 10 เมืองไมซ์ ว่า รัฐบาลต้องการเปิดประเทศอย่างปลอดภัย สิ่งสำคัญคือประชากรในประเทศต้องปลอดภัย ได้รับวัคซีนโควิด-19 ครอบคลุมมากพอที่จะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งวัคซีนจะช่วยลดการเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิตได้ 100%

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ส่วนการป้องกันการติดเชื้อและแพร่เชื้อป้องกันได้ 70% หากยังคงมาตรการนิวนอร์มัล สวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง ดูแลสุขภาพอย่างดี จะเติมเต็มทำให้ป้องกันติดเชื้อและแพร่เชื้อได้ 100% เหมือนที่เราควบคุมการระบาดระลอกแรกจนไม่มีการแพร่เชื้อมานานกว่า 6 เดือน

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะกระจายวัคซีนไปยังประชาชนทั่วประเทศให้เร็วที่สุดในช่วงปลาย พ.ค.ถึงต้นมิ.ย.นี้ ตั้งเป้าหมายให้ไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด เร็วที่สุด เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจให้เร็วที่สุด แม้จะมีการติดเชื้อก็จะเป็นจำนวนน้อยที่ระบบสาธารณสุขรับได้

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ส่วนการจัดงานไมซ์จะเป็นการจุดประกายให้เมืองไทยกลับมาสู่ภาวะปกติโดยเร็ว เนื่องจากช่วยส่งเสริมการทำงานและสร้างรายได้ ลดปัญหาการลักลอบเข้า-ออกประเทศไปทำงาน จึงลดความเสี่ยงที่จะนำเชื้อกลับเข้ามา รวมถึงการจัดงานอย่างปลอดภัยมีมาตรฐานก็จะช่วยเรียกชาวต่างประเทศเข้ามาท่องเที่ยว จัดสัมมนา ประชุม แสดงสินค้า เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ

“ชาวต่างชาติที่จะเข้ามาก็ต้องมั่นใจว่า ประชาชนในประเทศเราสุขภาพแข็งแรง ปลอดภัย มีระบบสาธารณสุขดูแลเขาเมื่อเจ็บป่วยได้ ซึ่งเมื่อเราฉีดวัคซีนได้ครอบคลุมมากเพียงพอก็ตั้งสมมติฐานได้ว่าปลอดภัย”

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ส่วนการรับวัคซีนแล้วไม่ต้องกักตัวถือเป็นเป้าหมาย แต่ต้องศึกษาเรื่องภูมิคุ้มกันผลตอบสนองต่อวัคซีนก่อนว่าเป็นอย่างไร ฉีดครบ 2 โดสแล้วใช้เวลานานเท่าใดภูมิคุ้มกันจึงสูงจนปลอดภัยต่อการติดเชื้อ ถ้าปลอดภัยก็ไม่ต้องกักตัว โดยจะเริ่มในคนไทยที่มีภารกิจเดินทางไปต่างประเทศ กลับมาไม่ต้องกักตัว ส่วนชาวต่างชาติอาจต้องรอเรื่องวัคซีนพาสปอร์ตที่จะต้องตกลงกันระหว่างประเทศ”

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ส่วนการส่งวัคซีนไปฉีดที่ภูเก็ต 1 แสนโดส ส่งไปแล้ว 5 หมื่นโดส จะส่งตามไปอีก 5 หมื่นโดส และส่งไปเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี 5 หมื่นโดส ถ้าผลภูมิคุ้มกันออกมาดีก็เปิดพื้นที่ได้เร็ว และพรุ่งนี้ผมจะนำวัคซีนไป อ.แม่สะเรียง จ.แม่อ่องสอน เพื่อฉีดให้แก่ทหาร ตำรวจชายแดน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ดูแลผู้ประสบภัยตามหลักมนุษยธรรม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน