สธ.เผยโควิดระลอกใหม่กระจายเกือบทุกจังหวัด เปิด 5 พื้นที่โควิดรอบใหม่ สีแดงติดเกินร้อย 5 จังหวัด สีเขียวพบเคสนำเข้า-ยังไม่ระบาด

วันที่ 12 เม.ย. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงสถานการณ์โรคโควิด 19 ว่า สถานการณ์ทั่วโลก “อินเดีย” ยังน่าเป็นห่วงมาก มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 169,914 ราย สหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น 4.7 หมื่นราย บราซิล 3.7 หมื่นราย และยังระบาดในหลายประเทศยุโรป ส่วนเพื่อนบ้านอาเซียน กัมพูชารายงานใหม่ 157 ราย มาเลเซียติดอีก 1.7 พันคน สำหรับประเทศไทยติดเชื้อใหม่ 985 ราย ระลอกใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. ติดเชื้อสะสม 4,747 ราย ยังรักษาอยู่ 5,265 ราย เสียชีวิตสะสม 3 ราย

การระบาดแบ่งเป็น 3 พื้นที่ คือ 1.กทม. ติดเชื้อวันนี้ 142 ราย สะสมตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. รวม 1,492 ราย 2.ปริมณฑล ติดเชื้อวันนี้ 163 ราย สะสม 738 ราย และ 3.จังหวัดอื่นๆ ติดเชื้อวันนี้ 680 ราย สะสม 2,517 ราย ส่วนคลัสเตอร์สถานบันเทิงติดเชื้อสะสม 2,256 ราย ตลาดชุมชนและขนส่ง สะสม 216 ราย ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ 2,275 ราย

“กทม.มีผู้ติดลดลง แต่ที่พบการติดเชื้อมาก คือ เชียงใหม่ ชลบุรี และสมุทรปราการ การติดเชื้อตอนนี้มีเกือบทุกจังหวัดแต่ส่วนใหญ่ไม่มาก 1-2 ราย และไม่เกิน 5-10 ราย แนวโน้มการติดเชื้อมีจำนวนเพิ่มขึ้น ต้องต้องจับตา 1-2 สัปดาห์นี้ โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์ แต่เหมือนแนวโน้มเริ่มชะลอตัวบ้างเล็กน้อย” นพ.โอภาสกล่าว

นพ.โอภาสกล่าวว่า การระบาดระลอกใหม่รูปแบบการระบาดจะแตกต่างจากที่ผ่านมาค่อนข้างเยอะ เนื่องจากพบในคนหนุ่มสาว วัยทำงาน นักศึกษาที่ช่วงนี้ปิดเทอม ซึ่งนักศึกษามีกิจกรรมมาก ไปเที่ยวสถานบันเทิง ช่วงสงกรานต์กลับบ้านกันมาก ทำให้การระบาดค่อนข้างเยอะ หากแบ่งสถานการณ์การระบาดแบ่งออกเป็น 5 สี 5 ระดับ คือ

1. สีขาว ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ มี 5 จังหวัด เช่น ปัตตานี พังงา กระบี่ ระนอง เป็นต้น

2.สีเขียว ติดเชื้อจาก กทม.และปริมณฑล และเดินทางกลับบ้านเกิด ไปถึงระบบตรวจจับได้โดยเร็ว ยังไม่มีการกระจายในจังหวัดตัวเอง เรียกว่าเป็นการนำเข้าจากจังหวัดอื่น ซึ่งสถานการณ์นี้พบมากที่สุด

3.สีเหลือง มีผู้ป่วยติดเชื้อจังหวัดอื่นเดินทางมา แต่ติดเชื้อเฉพาะในครอบครัว พ่อแม่ สามีภรรยา

4.สีส้ม มีการระบาดในจังหวัดตัวเอง กลุ่มก้อนการระบาดไม่มาก ต่ำกว่า 50 คน ได้แก่ ภูเก็ต ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม สระบุรี และระยอง

5.สีแดง มีการระบาดในจังหวัดตัวเอง และมีกลุ่มก้อนมากกว่า 50-100 คนขึ้นไป คือ กทม. 1,350 ราย เชียงใหม่ 383 ราย ชลบุรี 405 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 141 ราย และสระแก้ว 76 ราย

“ระดับสีดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับระดับสีมาตรการ แม้จะเป็นจังหวัดสีแดง แต่ไม่ใช่ว่าจะแย่ไปทั้งหมด อย่างประจวบคีรีขันธ์ พบติดเชื้อใหม่ 52 ราย สะสม 193 ราย กระจายเกือบทุกอำเภอ จุดเริ่มต้นมาจากผู้ที่มาจากสถานบันเทิงครัสตัล ทองหล่อ นำเชื้อมาติดในคอนเสิร์ตผับแห่งหนึ่งหัวหิน และคนติดเชื้อจุดนี้ไปเที่ยวสถานบันเทิงหลายแห่ง จึงติดจำนวนมากและคนในครอบครัว กิจกรรมคือสอบสวนโรค ควบคุมคนสัมผัส ผู้ป่วยไป รพ. สัมผัสเสี่ยงสูงกักตัว ตรวจแล็บ จุดต่างๆ ที่ผู้ติดเชื้อไปมีการทำความสะอาด ทำลายเชื้อทุกจุด สถานการณ์ถือว่าควบคุมได้ดี ดังนั้น แม้เป็นสีแดง แต่ถ้าร่วมมืองดกิจกรรม ปิดสถานที่เสี่ยง ลดพฤติกรรมเสี่ยง จะทำให้ควบคุมสถานการณ์ได้รวดเร็ว” นพ.โอภาสกล่าว

นพ.โอภาสกล่าวว่า ช่วงนี้คนไปสถานบันเทิง ซึ่งคนหนึ่งไปหลายที่ เบื้องต้นบอกข้อมูลไม่ค่อยครบถ้วน ต้องซักและสอบหลายวัน ทำให้การสอบสวนล่าช้าและลำบาก ถ้าร่วมมือร่วมใจ ข้อมูลที่บอกก็เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านและครอบครัว อย่าปกปิดเด็ดขาด หากปกปิดมีความผิดแน่นอน นอกจากนี้ ขอความร่วมมือใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ และเว้นระยะห่าง

สรุปสถานการณ์ขณะนี้แม้พบติดเชื้อรวดเร็ว กระจายทั่วประเทศ ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าเชื้อ ถ้าจังหวัดนั้นๆ ควบคุมตรวจจับได้เร็ว อย่างมากจะเป็นสีเหลือง จังหวัดที่มีกิจกรรมรวมตัวหมู่มาก ขอให้งดเว้น ยกเลิก ศบค.สั่งปิดสถานบันเทิง 41 จังหวัดก็ต้องเข้มงวด

ช่วงปิดเทอมมีกิจกรรมหลายอย่างที่เสี่ยง เช่น ออกค่ายทำกิจกรรม เพราะอยู่ร่วมกันใกล้ชิดเป็นเวลานาน ขอให้ระวัง นักศึกษาท่านใดช่วงนี้ไปผับบาร์คาราโอเกะ สถานบันเทิง ให้เฝ้าระวังตนเอง เลี่ยงพบปะคนหมู่มาก จะช่วยควบคุมโรคได้รวดเร็ว

สงกรานต์หลายจังหวัดกักตัวผู้มาจากจังหวัดเสี่ยง ขอให้ความร่วมมือและตรวจสอบกัับจังหวัด เน้นย้ำมาตรการป้องกันส่วนบุคคล อย่าไปจุดเสีีี่ยงทีี่แออัด ระบายอากาศไม่ดี อย่าไปมีพฤติกรรมเสี่ยง ไม่ใส่หน้ากาก ไม่เว้นระยะห่าง หรือดื่มแอลกอฮอล์ทำให้ขาดสติติดเชื้อง่ายขึ้น

สำหรับวัคซีนโควิด 19 กระจายแล้ว 77 จังหวัดกว่า 1 ล้านโดส ฉีดสะสม 570,052 โดส แบ่งเป็นเข็มแรก 498,791 ราย ครบ 2 เข็ม 71,261 ราย โดยฉีดบุคลากรการแพทย์ สาธารณสุข และ อสม. 200,525 ราย ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง 201,319 ราย เจ้าหน้าที่อื่นๆ 48,765 ราย ผู้มีโรคประจำตัว 22,243 ราย และผู้สูงอายุ 25,939 ราย

ศักยภาพการฉีดจากจำนวนวัคซีนที่มีถือว่าฉีดอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนซิโนแวค 1 ล้านโดส อยู่ในการตรวจสอบคุณภาพห้องปฏิบัติคาดว่าจะเสร็จใน 1-2 วันนี้ จะเร่งกระจายฉีดต่อไป ทุกอย่างเป็นไปตามแผน และแผนสำคัญคือการมีวัคซีน 6-10 ล้านโดสต่อเดือนช่วง มิ.ย.จะฉีดครอบคลุมกว้างขวางต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน