สาวเปิดใจ สสจ.แจ้งติด ‘โควิด’ ทั้งที่ไม่ได้ติดเชื้อ ต้องนอนร่วมห้องกับคนป่วยจริงๆ จนเสี่ยงสูง พ่อโวย จะรับผิดชอบความเสียหายยัง ลูกโดนต่อว่า จนร้องไห้
จากกรณีหญิงสาวได้รับแจ้งจาก สสจ.เชียงใหม่ ว่าติดเชื้อโควิด-19 ก่อนที่รถโรงพยาบาล จ.ลำปางจะมารับเข้าไปรักษาตัว แต่ปรากฎว่าเป็นการแจ้งผิดพล่ด เนื่องจากเจ้าตัวไม่ได้ติดเชื้อแต่อย่างใด และผลตรวจก็ออกมาว่าเป็นลบ ทำให้เธอต้องไปนอนรวมกับคนป่วยถึง 3 คืน กลายเป็นเสี่ยงสูงกว่าเดิม
ล่าสุดวันที่ 14 เม.ย.64 นายณรงค์ พินธิสืบ อดีต สจ.ลำปาง และอดีตผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครลำปาง ได้ออกมาเปิดเผยว่า ลูกสาวของตน อายุ 22 ปี ได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลใน จ.เชียงใหม่ จากนั้นได้รับแจ้งยืนยันว่าติดเชื้อโควิด จึงได้เข้ารักษาและอาศัยร่วมห้องกับผู้ติดเชื้อในโรงพยาบาลลำปาง ซึ่งต่อมาได้ตรวจสอบข้อมูลพบว่า ผลการตรวจของลูกสาวไม่ได้ติดเชื้อโควิดแต่อย่างใด ทางโรงพยาบาลจึงได้กลับมากักตัวที่บ้าน 14 วัน แต่ในเรื่องนี้ได้กระทบกระเทือนจิตใจลูกสาวเป็นอย่างมาก รวมไปถึงกระทบด้านเศรษฐกิจ เพราะทำให้ร้านค้าหลายร้านที่ปรากฏในไทม์ไลน์ต้องปิดตัวชั่วคราว อ่านข่าว สาวสุดช็อก! สสจ.ผิดพลาด แจ้งติด ‘โควิด’ สุดท้ายไม่ได้ป่วย นอนร่วมห้องผู้ติดเชื้อ 3 วัน
นายณรงค์ กล่าวต่อว่า จากเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ลูกสาวของตนได้รับความกระทบกระเทือนด้านจิตใจมาก เพราะเมื่อทราบว่าติดเชื้อก็รู้สึกไม่ดีอยู่แล้ว และยังก็ถูกคนจำนวนมากต่อว่าตำหนิต่างๆ นานา ในขณะที่ลูกสาวก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีมีการเปิดเผยไทม์ไลน์อย่างละเอียด โดยได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลลำปาง ร่วมห้องกับผู้ติดเชื้ออีก 1 คน นอนเตียงข้างกัน แต่ปรากฏว่ามาทราบว่าทางโรงพยาบาลที่เชียงใหม่ ได้มีการแจ้งผลตรวจผิด ลูกสาวของตนเองไม่ได้ติดเชื้อโควิดแต่อย่างใด
ทางโรงพยาบาลลำปางจึงได้ให้ออกมา โดยให้เดินลงทางบันไดผู้ติดเชื้อโควิด และให้รถที่บ้านมารับโดยนั่งกระบะด้านหลังรถกลับบ้าน เนื่องจากเป็นบุคคลเสี่ยงติดเชื้อ ให้มากักตัวอยู่บ้าน 14 วัน จากที่ลูกของตนจะได้ใช้ชีวิตตามปกติ แต่ด้วยความผิดพลาดในการทำงานของหน่วยงาน ลูกสาวของตนต้องกลายเป็นบุคคลกลุ่มเสี่ยงมาก ทำให้ลูกเสียใจอัดอั้น ถึงกับร้องไห้ออกมา
นายณรงค์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่ต้องการก็คือ อยากให้หน่วยงานที่ทำผิดพลาดออกมารับผิดชอบ ออกมาพูดขอโทษ และมีเอกสารยืนยันว่าลูกสาวของตนไม่ได้ติดเชื้อ เพราะขนาดมีเอกสารผลตรวจมายืนยันแล้ว ก็ยังมีคนอื่นกล่าวว่าเป็นเอกสารปลอม ขอให้ชี้แจงอยากเป็นทางการกับเรื่องที่เกิดขึ้น ผู้ใหญ่ควรจะออกมาขอโทษและรับผิด เพื่อจะนำไปปรับปรุงในเคสอื่นๆ
ซึ่งเชื่อว่ายังมีกรณีนี้เกิดขึ้นอีกกับหลายคน เข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ทำงานหนัก และเกิดความผิดพลาดได้ แต่เมื่อผิดแล้วก็ขอให้ยอมรับ ไม่ใช่ปัดความรับผิดชอบ หรือนิ่งเฉยให้เด็กต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ อีกประการคือ ร้านค้าที่มีอยู่ในไทม์ไลน์ลูกสาวตนก็ต้องได้รับความเดือดร้อนไปด้วย ต้องมาปิดร้านไปเพราะได้รับแจ้งว่ามีผู้ติดเชื้อเข้ามาในร้าน เรื่องนี้ทำให้เกิดความเสียหายกับหลายๆ คน
ขณะที่พูดคุยกันอยู่นั้น นพ.ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ สสจ.ลำปาง ได้โทรศัพท์เข้ามาหา นายณรงค์ พร้อมกับกล่าวคำขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับ นายณรงค์ และลูกสาว โดยทาง สสจ.จะมีการออกแถลงข่าวชี้แจงให้ชัดเจนว่าลูกสาวไม่ได้มีการติดเชื้อโควิดจริง
จากนั้น นายณรงค์ ได้วีดีโอคอลหาลูกสาว และแจ้งว่าทาง สสจ.ลำปางจะออกมาชี้แจงแก้ไขให้ และให้ทางผู้สื่อข่าวได้พูดคุย โดยน้องต้นฝน กล่าวเช่นเดียวกันว่า เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมารับผิดชอบ แก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง รวมถึงแจ้งไปยังร้านค้าในไทม์ไลน์ที่ต้องปิดตัวไป
วันที่ 19 เม.ย.64 นี้ก็ต้องไปตรวจยืนยันผลอีกครั้งหนึ่ง เพราะได้นอนร่วมห้องกับผู้ที่ติดเชื้อแล้ว สภาพติดใจตอนนี้ก็ยังไม่ค่อยดีขึ้น เพราะโดนต่อว่าจากหลายๆ คนด้วย รู้ว่าเป็นโควิดก็รู้สึกแย่แล้ว แต่มารู้ว่าแจ้งผลผิดยิ่งแย่ไปกว่าเดิมมาก ทุกอย่างกระทบไปหมดทั้งต่อตัวเองและผู้ประกอบการคนอื่นๆ ด้วย ขอให้หน่วยงานออกมายอมรับข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น
