ปลัด สธ.สั่งทุกจังหวัดเร่งฉีดวัคซีนโควิด 19 ให้บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า 6 แสนโดส หรือ 3 แสนราย ให้เสร็จภายในสัปดาห์นี้ หวังดันยอดฉีดวัคซีนรวมเกิน 1 ล้านโดส คาดหลังใช้มาตรการควบคุมโรคและมาตรการสังคม ผู้ติดเชื้ออาจเริ่มลดลงในสัปดาห์นี้ด้วย

วันที่ 20 เม.ย.2564 นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวระหว่างเป็นประธานประชุมเตรียมความพร้อมรับมือโควิด-19 และการบริหารจัดการวัคซีน ร่วมกับผู้บริหารส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ว่า ขณะนี้มีการติดเชื้อไปทั่วประเทศ มากกว่าครึ่งรับมือและควบคุมได้ มีประมาณ 20 จังหวัดที่ระบาดมาก

ขอให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่อดทนและเสียสละ ร่วมกันทำงานเพื่อควบคุมโรค ดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ โรคนี้หากควบคุมได้อย่างรวดเร็วจะลดการติดเชื้อลงได้ รวมทั้งการใช้มาตรการควบคุมโรค และมาตรการทางสังคมต่างๆ คาดว่าปลายสัปดาห์นี้จะเริ่มเห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลง

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวด้วยว่า สำหรับการรักษาพยาบาลผู้ติดเชื้อ เนื่องจากส่วนใหญ่การระบาดเป็นสายพันธุ์ใหม่คือ สายพันธุ์ B 1.1.7 หรือสายพันธุ์อังกฤษ จึงต้องดูแลผู้ติดเชื้อ 14 วัน จากเดิมดูแลเพียง 10 วัน ทำให้ผู้ติดเชื้อแต่ละคนต้องใช้เตียงนานขึ้น ประกอบกับมีข้อมูลว่า การระบาดรอบนี้มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ทำให้ดูเหมือนว่าผู้ติดเชื้อมีอาการมาก คนไข้หนักก็เริ่มเห็นมากขึ้น จึงต้องเตรียมความพร้อมเตียงไอซียู โดยกระทรวงสาธารณสุขจัดทำคู่มือการประเมินความพร้อมในด้านต่างๆ เป็นแนวปฏิบัติให้ทุกโรงพยาบาลได้สำรองและเตรียมอุปกรณ์ เวชภัณฑ์ทางการแพทย์ไว้อย่างเพียงพอ

สั่งฉีดวัคซีน

“ส่วนยาฟาวิพิราเวียร์รักษาผู้ติดเชื้อโควิด เดิมเรามีประมาณ 6-7 แสนเม็ด ถือว่ามีเยอะ เนื่องจากขณะนั้นมีผู้ติดเชื้อน้อย แต่ตอนนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น นักวิชาการหลายคนเห็นว่าควรให้ยาเร็วขึ้นเพื่อลดอาการปอดอักเสบ จึงทำให้มีการใช้ยาเพิ่มมากขึ้น จากการใช้วันละไม่กี่เม็ด เพิ่มเป็นวันละ 2 หมื่นเม็ด ขณะนี้ได้สั่งซื้อยามาอีก 2 ล้านเม็ดเพื่อรองรับสถานการณ์แล้ว กระจายยาอย่างทั่วถึงเพื่อไม่ให้เกิดภาวะขาดยา และสั่งซื้อยาฉีดเรมเดซีเวียร์เพิ่มเช่นกัน” ปลัด สธ.กล่าว

สั่งฉีดวัคซีน

นพ.เกียรติภูมิ ระบุอีกว่า ส่วนวัคซีนโควิด-19 ต้องปรับแผนการฉีดตามสถานการณ์ ในช่วงการระบาดความสำคัญอยู่ที่บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ต้องได้รับวัคซีน 100 % ในวันที่ 21 เม.ย.นี้ จะกระจายวัคซีนซิโนแวคล็อต 1 ล้านโดส เพื่อฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าประมาณเกือบ 6 แสนโดส หรือประมาณ 3 แสนคน เร่งรัดการฉีดให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 25 เม.ย.นี้

จะทำให้การฉีดวัคซีนภาพรวมของประเทศไทยเกิน 1 ล้านโดสภายในสัปดาห์นี้ และให้เร่งการฉีดวัคซีนทั้งเข็มแรกและเข็มที่สองในกลุ่มเสี่ยงในทุกจังหวัดด้วยเช่นกัน หากทำได้อย่างรวดเร็วจะส่งวัคซีนลงไปสนับสนุนเพิ่มเติม เนื่องจากยังมีวัคซีนที่จะเข้ามาอีก 5 แสนโดสในวันที่ 24 เม.ย. และกำลังเจรจานำเข้ามาอีก 1 ล้านโดส จากนั้นจะเป็นการฉีดวัคซีนล็อตใหญ่ของแอสตราเซนเนกาต่อไป

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน