โควิด : จ.แพร่ เร่งฉีดวัคซีนต้าน โควิด-19 ของ Sinovac ชุดที่ 2 ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ ที่มีความเสี่ยงสูง 1,020 คน รวมทั้งจังหวัดฉีดได้ 1,220 แล้ว

เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2564 ที่รพ.แพร่ บุคลากรทางการแพทย์ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่รพ.แพร่ 890 คน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจ.แพร่ 80 คน สำนักงานสาธารณสุข อ.เมืองแพร่ 50 คน ที่มีความเสี่ยงต่อการรับได้เชื้อ โควิด-19 เข้ารับการฉีดวัคซีน รอบแรก เวลา 09.45 น. และรอบที่ 2 เวลา 10.45 น.

โดยขณะนี้มีผู้ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 1,220 คน และในวันเสาร์ที่ 24 เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเอกชน 2 แห่ง โรงพยาบาลแพร่คริสเตียน 80 คน โรงพยาบาลแพร่ราม 120 คน และวิทยาลัยพยาบาลแพร่ 200 คน จะทยอยเข้ารับการฉีดวัคซีน

ครั้งนี้กรมควบคุมโรค ได้จัดส่งวัคซีน โควิด-19 ของ Sinovac สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่มีอายุระหว่าง 18-59 ปี ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุขด่านหน้า ตำรวจและทหารด่านหน้า ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ติดเชื้อ โควิด-19 และกลุ่มประชาชนที่มีโรคประจำตัว ในครั้งนี้ได้รับการจัดสรรวัคซีน จำนวน 4,760 โดส หรือ 2,380 คน

แบ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์และผู้มีโอกาสสัมผัสโรค อ.เมืองแพร่ 1,420 คน อ.สูงเม่น 110 คน อ.ร้องกวาง 120 คน อ.ลอง 170 คน อ.วังชิ้น 110 คน อ.หนองม่วงไข่ 120 คน อ.เด่นชัย 160 คน และอ.สอง 170 คน ซึ่งจะทยอยฉีด ตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย. 64 เป็นต้นไป จนกว่าจะครบ

อย่างไรก็ตามการฉีดวัคซีนป้องกัน โควิด-19 รัฐบาลมีนโยบายให้ประชาชนชาวไทย ได้รับวัคซีนป้องกันโรค โควิด-19 โดยสมัครใจ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นเศรษฐกิจ นักลงทุน นักท่องเที่ยวเกิดความมั่นใจ โดยคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ได้กําหนดไว้ 3 ระยะ

ระยะที่ 1 ช่วงที่วัคซีนมี ปริมาณจํากัด เพื่อลดการป่วยรุนแรง และเสียชีวิต รักษาระบบสาธารณสุขของประเทศ ฉีดให้บุคลากร ทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า ทั้งภาครัฐและเอกชน ผู้มีโรคประจําตัว ได้แก่ โรคทางเดิน หายใจเรื้อรังรุนแรง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน และโรคอ้วน ผู้ที่มีอายุ 60 ปี ขึ้นไป และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรค โควิด-19 ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย

ระยะที่ 2 ช่วงที่มีวัคซีนเพิ่มขึ้น เพื่อรักษาเศรษฐกิจ สังคม และความ มั่นคงของประเทศ ฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่นอกเหนือจากด้านหน้า เจ้าหน้าที่ที่ มีโอกาสสัมผัสเชื้อ โควิด-19 ผู้ประกอบอาชีพที่มีโอกาสสัมผัสกับคนจํานวนมาก และผู้ที่มีโอกาส สัมผัสผู้เดินทางระหว่างประเทศ

และระยะที่ 3 ช่วงที่วัคซีนมีปริมาณเพียงพอ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ในระดับประชากร และฟื้นฟูให้ประเทศกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ฉีดให้กับประชาชนทั่วไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน