“อนุทิน” แจงศูนย์แรกรับฯ ช่วยเก็บตก เคลียร์คนติดโควิดตกค้างที่บ้านใน กทม. ยันไม่ใช่ รพ.สนาม แต่จะคัดกรองอาการเขียว เหลือง แดง ก่อนส่งไปรักษาตามระบบ แต่หากไม่มีสังกัดใดรองรับจะให้เข้าพักเลย แนะรอเตียงไม่ไหวเดินทางมาเองได้ ลั่นทำทุกทางไม่ให้ต้องเปิดไอซียูสนาม
วันที่ 25 เม.ย.2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ร่วมตรวจความพร้อมการดำเนินงาน รพ.สนามและหอผู้ป่วยเฉพาะกิจโควิด 19 (Cohort Ward) ของสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.)
นายอนุทิน กล่าวว่า สบยช.จัดตั้ง รพ.สนามและหอผู้ป่วยเฉพาะกิจโควิด-19 รวม 200 เตียง มีการเปิดใช้ 130 เตียง มีผู้เข้าพักแล้ว 117 ราย ส่วนที่เหลือกำลังทยอยเปิดเพิ่มและรับผู้ป่วยโควิด-19 เข้ามาดูแล หากผู้ป่วยมีอาการมากขึ้นก็ประสานส่งต่อรพ.ปทุมธานีได้ โดยมีสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) จัดการเรื่องรถขนย้ายผู้ป่วย
นายอนุทิน กล่าวถึงการจัดตั้งศูนย์แรกรับและส่งต่อผู้ป่วยโควิด-19 ว่า สธ.ไม่ได้ดูระบบสาธารณสุขของกทม.โดยตรง แต่เห็นยังมีปัญหาผู้ป่วยจำนวนมาก และตกค้างอยู่ที่บ้าน เราจะเข้ามาช่วยสนับสนุน เคลียร์จำนวนผู้ป่วยที่ตกค้างอยู่บ้านให้มากที่สุด โดยตั้งศูนย์แรกรับและส่งต่อ (Pre admissions center) แต่ไม่ใช่รพ.สนาม เพราะมีการจัดตั้งต่างกัน ตนหารือร่วมกับ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา จัดหาสถานที่ ท่านก็มอบพื้นที่อินดอร์สเตเดี้ยมหัวหมาก รองรับได้ประมาณ 500 เตียง หลังจากนั้นจะคัดกรองตามอาการ เขียว เหลือง แดงส่งต่อไปตามระบบหากผู้ป่วยมีสังกัด แต่ถ้าไม่มีรายชื่อในสังกัดใด ก็ให้เข้าพักในศูนย์ได้เลย เนื่องจากมีลักษณะเป็นโรงพยาบาลชั่วคราว
“ศูนย์เหมือนเป็นส่วนแยกของ สธ. ภายในศูนย์จะมีรถเอกซเรย์ ห้องแล็บ ย้ำว่าไม่ใช่สถานที่ให้คนทั่วไปมาตรวจหาเชื้อ หรือเข้ารับการกักตัว ทั้งนี้ เพื่อแก้ปัญหาผู้ป่วยตกค้างอยู่บ้าน ผู้ป่วยทุกคนต้องถึงมือหมอ เพื่อป้องกันไม่ให้อาการเปลี่ยนจากกลุ่มสีเขียว ไปเป็นสีเหลืองหรือแดง ขณะนี้เรามีสายด่วนโทร.ติดตามให้มารับการรักษา แต่หากไม่ทันใจ อยากเข้าสู่ระบบโดยเร็วสามารถเดินทางมายังศูนย์แรกรับฯ เพื่อเข้ารับการคัดกรอง และดูแลตามระบบได้ทันที ถือเป็นหน่วยเก็บตกอีกช่องทางที่ช่วยเร่งให้ได้รับการดูแลเร็วขึ้น หากจะเดินทางมาก็ขอให้นำผลตรวจมาด้วย และขอความร่วมมือในการใช้รถยนต์ส่วนตัว สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา หรือติดต่อมาที่แท็กซี่รพ.ราชวิถี เพื่อให้ไปรับได้”
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ภาคเอกชนที่พร้อมสนับสนุนเตียงมากถึง 5 พันเตียง โดยมีอุปกรณ์ต่างๆ พร้อม ส่วนบุคลากรจะระดมแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์จากจังหวัดที่ควบคุมสถานการณ์ได้ดีสลับหมุนเวียนกันมาดูแล การมี รพ.สนามหรือ ฮอสปิเทลจำนวนมาก รวมถึงย้ายคนที่อาการดีหรือรักษาหายออก จะช่วยให้เตียงมีมากขึ้น โดยเฉพาะเตียงไอซียู เราทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะไม่ให้สถานการณ์ต้องไปถึงขั้นเปิดไอซียูสนาม
ประชาชนเองก็ร่วมมือ จะเห็นว่า กทม.การจราจรเบาบางลง คนออกมาข้างนอกน้อยลง ก็เชื่อว่าเมื่อผู้ติดเชื้อใหม่ลดลง ผู้ป่วยในโรงพยาบาลทยอยหายมากขึ้น ขอให้อดทนร่วมกันยกการ์ดสูง เมื่อตัวเลขต่างๆ เคลียร์ เมื่อมีวัคซีนมาทุกอย่างน่าจะดีขึ้น ส่วนเรื่องการใช้งบเงินกู้ไม่ได้ล่าช้า จะเห็นว่ายาหรือวัคซีนก็จัดหาซื้อมาได้ การมี รพ.สนามและอุปกรณ์เวชภัณฑ์ดูแลทั้งผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ต่างๆ ก็เป็นงบประมาณทั้งสิ้น ส่วนกรณีเดินทางมาจากอินเดียเราก็พยายามให้เข้ามาลำบากขึ้น โดยยืดระยะเวลากักตัวเป็น 3 สัปดาห์” นายอนุทิน ระบุ