ศบค.จ่อ เพิ่มมาตรการเข้ม แบ่งโซนสี-ล็อกดาวน์ แนะจับตา ศบค.เคาะอย่างไร ใน 1-2 วันนี้ น้อมรับคำวิจารณ์ ชี้ครอบครัวอาม่า เกมเมอร์ดัง ก็เหมือนครอบครัวของเรา

เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ที่ศบค.ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ตอบข้อซักถามถึงกรณีมีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการเดินทางเข้าประเทศไทยของชาวต่างชาติ จะมีการระงับหรือไม่ ว่า

การเดินทางจากต่างประเทศนั้นยังมีระบบออกใบอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศโดยกระทรวงการต่างประเทศ และเมื่อเดินทางเข้ามาอย่างถูกต้องแล้ว ก็ได้รับการดูแลอยู่ในสถานกักตัวที่รัฐจัดให้ และสถานกักตัวทางเลือก ในเรื่องชะลอการออกใบอนุญาตเข้าประเทศนั้น ที่ประชุม ศบค.มีการทบทวน และอยากให้ทุกคนติดตามว่าการประกาศจากกระทรวงการต่างประเทศจะเป็นอย่างไร

ส่วนกรณีกลุ่มคนไทยเดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง เช่น อินเดีย ปากีสถานจะต้องกักตัว 14 หรือ 21 วันกันแน่นั้น เรื่องดังกล่าวทางศบค.ไม่ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากเพราะเป็นสิทธิที่ประชาชนไทยจะเดินทางกลับบ้าน เพียงแต่จำเป็นต้องได้รับการดูแลไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อ ออกมาจากระบบการกักตัว

ทั้งนี้ จากการรายงานก่อนหน้านี้ของ ศบค.ถึงศักยภาพการรองรับการกักตัว มีการปรับเปลี่ยนมาใช้รูปแบบของฮอสปิเทล หรือโรงพยาบาลสนามบ้างแล้ว ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณในข้อเสนอแนะและความเป็นห่วงที่ทุกคนส่งมา อย่างไรก็ตามอยากให้ทุกคนติดตามการรายงานของกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการต่างประเทศ อย่างใกล้ชิดในระยะนี้ เนื่องจากมีการพูดคุยหารือใกล้ชิดกันอยู่

มีการพูดคุยเรื่องการกักตัวของผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ เพราะจากการรายงานเรายังพบผู้ติดเชื้อได้ในระยะหลัง 10 วัน เช่น 11 วัน 13 วัน บางคนมีรายงานว่าหลังจากที่ผู้ได้รับการรักษาในโรงพยาบาล 14 วัน ออกมาจากโรงพยาบาลแล้ว ก็มีรายงานยืนยันว่าติดเชื้อได้ยาวถึง 21 วันเป็นต้น ซึ่งกรมควบคุมโรคพิจารณาเรื่องนี้อย่างละเอียดรอบคอบ

และติดตามรายงานอย่างใกล้ชิด จึงอยากเน้นย้ำผู้ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสนาม หรือโรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลเอกชนในช่วงนี้ด้วยว่า หลังจากผู้รับการรักษากลับบ้านไปแล้ว ยังจะต้องแยกกัก ไม่ไปสัมผัสผู้อื่น หรือแม้แต่คนในครอบครัวอีกเป็นระยะเวลา 14 วัน

ผู้สื่อข่าวถามว่าสถานการณ์ขณะนี้มาตรการกักตัวอยู่บ้านของผู้ป่วยที่อาการไม่รุนแรงจะเป็นอย่างไร พญ.อภิสมัย กล่าวว่า การที่พี่น้องประชาชนรอเตียงนั้นขอเรียนว่า ไม่มีใครสบายใจ และในหลายครั้งหลายคนยอมรับว่ามันเกิดขึ้นกับตัวเรา คนรอบข้างเรา พวกเราจึงพยายามช่วยกันหาเตียง

แต่ในแง่การจัดการเตียงอย่างที่เรียนให้ทราบว่าในกรุงเทพมหานครมีผู้ป่วยกลับบ้านได้จำนวน 170 ราย ก็จะมีกระบวนการทำเรื่องให้กลับบ้าน และจะต้องดูแลอย่างไรให้ตัวเองปลอดภัย บุคลากรทางการแพทย์เล่าให้ฟังว่า การทำเรื่องให้บุคคลกับบ้านนั้น มีกระบวนการหลายขั้นตอนมากๆ และการจะรับผู้ป่วยใหม่นั้นไม่สามารถทำได้ปุบปับทันที แต่จะต้องมีการเตรียมพื้นที่ เตรียมเตียง เพื่อที่จะรับผู้ป่วยใหม่

ดังนั้น จึงเกิดการรอเตียง ทำให้เกิดคำถามขึ้นว่าการอยู่บ้านรอเตียง โดยไม่ต้องเข้าสู่ระบบการรักษาได้หรือไม่ ทางศบค.ทบทวนอยู่ทุกวัน แต่มีการรายงานบางเคสเกิดความไม่สบายใจ เพราะเริ่มต้นวันที่หนึ่งอาการยังปกติดี เข้าสู่ระบบแล้ว แต่ได้รับการยืนยันจากโรงพยาบาลว่ายังจำเป็นต้องรอเตียง จากนั้นเราจะเห็นอาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว หรือการที่สภาพบ้านไม่เอื้ออำนวย

ซึ่งเราเน้นย้ำว่าการแยกกักอยู่ที่บ้านนั้น จะต้องแยกพื้นที่กับบุคคลในครอบครัว ไม่รับประทานอาหารร่วมกัน พยายามไม่ใช้ห้องน้ำเดียวกัน ไม่คลุกคลีใกล้ชิด ก็พบว่าทำได้ยาก ทำให้เราได้เห็นข่าวในตลอดว่า ในกรณีผู้ป่วยหนึ่งรายเกิดการติดเชื้อไปยังบุคคลในครอบครัว โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็กเล็กติดเชื้อ จึงเป็นที่มาทำให้ยังไม่สามารถระบุว่า ให้ประชาชนกักตัว หรือแยกกักรอเตียงอยู่ที่บ้าน ถือว่ามาตรฐานยังเป็นอันตรายอยู่

เมื่อถามว่ามีโอกาสหรือไม่ที่จะล็อกดาวน์บางจังหวัด พญ.อภิสมัย กล่าวว่า เรื่องล็อกดาวน์นั้น วันพฤหัสฯ ที่ 29 เม.ย. จะมีการทบทวนมาตรการในเรื่องพื้นที่ โดยพิจารณาว่าจะเพิ่มมาตรการอย่างไร จะล็อกดาวน์หรือไม่ วันนี้ทางกรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุขหารือกับศบค. และในช่วง 1-2 วันนี้ คงจะได้เห็นมาตรการปรับความเข้มข้นมากขึ้นในบางพื้นที่ แต่ละกิจการกิจกรรม แต่ละจุด จึงขอให้ทุกคนได้ติดตามอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ ขอขอบคุณทุกฝ่ายโดยเฉพาะสื่อมวลชน ที่เป็นกระบอกเสียงให้ประชาชน สามารถวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของภาครัฐ ภาคสาธารณสุขได้ แต่ขอให้ชี้แนะรวมไปถึงให้กำลังใจบุคลากรในการทำงานด้วย อย่างไรก็ตามประชาชนอาจเห็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้น อาจมีความไม่พอใจ ตำหนิติเตียน แต่ถ้าดูที่มาที่ไปก็เพราะเราเป็นห่วงประเทศไทย มีความรักในครอบครัวอาม่า ครอบครัวคุณอัพ ซึ่งก็เหมือนครอบครัวเรา เพราะฉะนั้นการที่เราอาจจะส่งเสียงทะเลาะกันบ้างในวันนี้เพราะเรามีความมุ่งมั่นเดียวกัน ต้องการทำให้ระบบดีขึ้น ขอให้ทุกคนหันหน้าเข้าหากัน จับมือกันและร่วมมือกัน ถกเถียงกันได้บ้าง แต่ถึงอย่างไรเราก็ร่วมมือกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน