โฆษก ตร. เผย ไม่สวมแมสก์ออกนอกบ้าน ตร.ต้องใช้วิจารณญาณในการจับกุม ไม่ใช่จับดะ เผยพนักงานสอบสวน พิจารณาค่าปรับให้น้อยกว่ากำหนดได้ แต่ต้องไม่ต่ำกว่า 2 พัน

วันที่ 27 เม.ย.64 พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการจับกลุ่มดำเนินคดีผู้ฝ่าฝืนไม่สวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเมื่อออกนอกเคหสถาน โดยยืนยันว่า การปรับครั้งแรกต้องปรับขั้นต่ำ 6,000 บาท ความผิดครั้งที่ 2 จำนวน 12,000 บาท และ ความผิดครั้งที่ 3 สูงสุดเป็นเงิน 20,000 บาท

แต่ทั้งนี้ กฎหมายมีหลักเกณฑ์ลดค่าปรับได้ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นตามสภาพของบุคคล เช่น เด็กที่อายุต่ำกว่า 2 ขวบ ผู้ที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ผู้ที่มีภาพสังคมเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเสียค่าปรับ เป็นต้น ซึ่งพนักงานสอบสวนสามารถพิจารณาให้น้อยกว่าที่กำหนดได้

โดยต้องไม่ต่ำกว่า 1 ใน 3 จ่ายไม่ต่ำกว่า 2,000 บาท ซึ่งตามหลักเกณฑ์ของกฏหมาย หากผู้ถูกกระทำผิดไม่ยินยอมให้ปรับขั้นต่ำเป็นเงิน 6,000 บาท หรือ ไม่สามารถนำค่าปรับมาเสียตามที่เปรียบเทียบได้แล้ว พนักงานสอบสวนต้องทำสำนวนคดีส่งฟ้องศาล เพื่อให้ศาลใช้ดุลยพินิจพิจารณาต่อไป

พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวต่อว่า พนักงานสอบสวนใช้วิจารณญาณในการดำเนินคดีกับผู้ที่ฝ่าฝืน แต่ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนคำนึงถึงเจตนารมณ์ในการออกข้อบังคับเพื่อระงับยับยั้งโรคระบาด เนื่องจากข้อประกาศของแต่ละจังหวัดมีเจตนาที่เขียนไว้ชัดเจน ว่าเมื่อออกนอกเคหสถานให้สวมใส่หน้ากากฯ จึงขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการพิจารณาปฏิบัติตามข้อประกาศ เพราะเชื่อว่า คงไม่มีตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่รัฐ เข้าไปสอดส่องผู้กระทำผิด ได้อย่างทั่วถึง

พร้อมกำชับตำรวจในจังหวัดที่ออกคำสั่งให้สวมหน้ากาก ให้บังคับใช้กฎหมายเป็นไปในมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งยอมรับว่าความเข้าใจคลาดเคลื่อนมีอยู่บ้าง แต่ไม่ทำให้ผลการปฏิบัติเสียหาย ตอนนี้ได้ทบทวนซักซ้อมทำความเข้าใจอัตราค่าปรับกันแล้ว ปัญหากฎหมายใหม่ที่เราไม่เคยใช้กันมาก่อน ตนคิดว่าต้องปรับตัวอีกสักระยะหนึ่ง แต่มั่นใจว่าผู้ปฏิบัติบังคับใช้กฎหมายแบบวิญญูชนทั่วไป ไม่จับตะพึดตะพือ โดยจะรับข้อคิดเห็นจากสังคม เพื่ออุดช่องว่าง

พล.ต.ต.ยิ่งยศ ยังกล่าวถึงการเตรียมใช้สายด่วน 191 เป็นสื่อกลางในการประสานรับเรื่องราวร้องทุกข์ เพื่อส่งต่อข้อมูลให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด -​19 หลังพบว่า มีปัญหาเกี่ยวกับศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ไม่เพียงพอในการรับเรื่องจากประชาชนทั่วประเทศ โดยขั้นตอนยังอยู่ระหว่างซักซ้อมการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวต่ออีกว่าทาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกนโยบายให้ผู้บังคับบัญชาไปตรวจสอบกำลังพลทุกคนที่อยู่ในสังกัดว่า มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือไม่ โดยเฉพาะกำลังพลที่อยู่ในสังกัดโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งต้องรับหน้าที่ในการดูแลผู้ป่วยและรับผิดชอบพื้นที่โรงพยาบาลสนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้การสนับสนุนในเรื่องของสวัสดิการ เพื่อดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างเต็มที่

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน