สลด สาวการประปา วัย 35 ปี ติดโควิด เสียชีวิต รายแรกราชบุรี เผยรักษาตัว 17 วัน ก่อนเจออาการแทรกซ้อน ทั้งปอดอักเสบ-ติดเชื้อในกระแสเลือด
วันที่ 29 เม.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับแจ้งจาก พระครูศาสนกิจวิบูลย์ เจ้าอาวาสวัดทุ่งตาล ต.เจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี ว่าทางวัดได้มีความเมตตาต่อครอบครัวผู้ที่เสียชีวิตด้วยโรคโควิด ทำการฌาปนกิจศพของผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 28 เม.ย.64 ที่ผ่านมา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลราชบุรี ได้ห่อศพของผู้เสียชีวิตตามมาตรการการควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุข
โดยมีเจ้าหน้าที่สวมชุด PPE และ ทำการฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อบริเวณโดยรอบเมรุ หรือ เตาเผาศพ จากนั้นนำร่างของผู้เสียชีวิตเข้าเตาเผาของทางวัดซึ่งเป็นระบบไฟฟ้า จึงไม่มีใครได้สัมผัสศพ นอกจากเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลราชบุรีที่สวมชุด PPE
ภายหลังจากทำการฌาปนกิจศพของผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 เจ้าหน้าที่ดูแลการเผาศพของทางวัดได้นำเศษเถ้ากระดูกมาจำแนกบรรจุใส่โกศ ส่วนที่เหลือจะนำไปลอยอังคาร ทั้งนี้ระหว่างประกอบพิธี ไม่มีญาติหรือ การประกอบพิธุสวนอภิธรรมศพ มีเพียงบิดาของผู้ตาย และ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลราชบุรี และ เจ้าหน้าที่ประจำเมรุของทางวัดเท่านั้น
เผยไทม์ไลน์ผู้ป่วยที่เสียชีวิต
ส่วนข้อมูลของผู้เสียชีวิต ทราบคือ เป็นผู้ป่วยด้วยโรคโควิด-19 รายที่ 73 เป็นผู้ป่วยหญิงสาววัย 35 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 5 ต.เจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี อาชีพพนักงานรัฐวิสาหกิจ การประกาส่วนภูมิภาค จ.ราชบุรี โดยเข้ารักษาตัวตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.64
ส่วนไทมไลน์ เป็น พี่สาวของผู้ป่วยยืนยันระลอกใหม่ ของจังหวัดราชบุรี รายที่ 64 โดยเมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2564 เวลา 08.00-11.00 น. ไปทำงานที่สำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค จังหวัดราชบุรี ถ.เพชรเกษม ม.1 ต.ท่าราบ อ.เมือง จ.ราชบุรี โดยรถยนต์ส่วนตัว จากนั้นเวลา 11.00-12.00 น. ไปกินข้าวร้านข้าวคลุกกะปิ ถ.เพชรเกษมสายเก่า ต.หน้าเมือง โดยรถยนต์ส่วนตัว จากนั้นกลับที่ทำงาน และ เวลา 17.30 น. กลับบ้านพัก ม.5 ต.เจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี
วันที่ 6 เม.ย.2564 พักอยู่บ้านพัก ม.5 ต.เจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี ไม่ได้ออกไปไหน
วันที่ 7 เม.ย.2564 เวลา 08.00-17.00 น. ไปและกลับทำงานที่สำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค จังหวัดราชบุรี โดยรถยนต์ส่วนตัว
วันที่ 8 เม.ย.2564 เวลา 08.00-17.00 น. ไปและกลับทำงานที่สำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค จังหวัดราชบุรี โดยรถยนต์ส่วนตัว เวลา 12.00- 13.00 น. ไปกินข้าวราดแกงหน้าสำนักงานขนส่งจังหวัด ถ.เพชรเกษม จ.ราชบุรี โดยรถยนต์ส่วนตัว จากนั้นกลับที่ทำงานสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค จังหวัดราชบุรี เวลา 19.00 น. เริ่มมีอาการเจ็บคอ
วันที่ 9 เม.ย.2564 มีอาการครั้นเนื้อครั่นตัว ลาป่วย พักอยู่บ้านพัก ม.5 ต.เจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี ต่อมาเวลา 10.00 น. เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว พร้อมบิดา มารดา ไปรับหลานสาวที่บ้านน้องสะใภ้ ถ.เขางู ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี มาที่บ้าน ม.5 ต.เจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี
จนกระทั่งวันที่ 10 เม.ย.2564 เวลา 14.00 น. ทราบผลตรวจของน้องชาย (ผู้ป่วยยืนยันระลอกใหม่ รายที่ 64 จังหวัดราชบุรี) ว่าพบเชื้อ โควิด-19 จากนั้นเวลา 17.00 น. ตรวจหาเชื้อ โควิด-19 ที่ รพ.ราชบุรี และเข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยใน รพ.ราชบุรี
วันที่ 11 เม.ย.2564 เวลา 14.00 น. ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการพบเชื้อ โควิด-19
เจ้าตัวโพสต์อัพเดตอาการ
ขณะเดียวกัน ผู้เสียชีวิตได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 11 เม.ย.2564 เวลา 19.18 น. ระบุข้อความว่า “ผลเป็นบวกนะคะ ตอนนี้กักตัวที่รพ. ยาวๆค่ะ ขอโทษบางคนไม่ได้ตอบ ยุ่งมาก เครียดมาก อีก 14 วันเจอกันจ้า”
ต่อมาวันที่ 17 เม.ย. พ่อของผู้เสียชีวิต ออกมาอัพเดตอาการของลูกสาว ว่า “อาการน้องปู เมื่อวันที่ 15 เมย. มีอาการเชื้อลงปอดทำให้หายใจไม่ทันมีอาการเหนื่อย หมอจึงใส่ท่อช่วยหายใจ และให้ยานอนหลับ เพื่อจะได้พักผ่อนเยอะๆ และให้ยารักษาเชื้อในปอด อาการโดยรวม ณ วันที่ 17 เมย. ถือว่าดีขึ้นเป็นลำดับ ตอนนี้หมอดูแลอย่างใกล้ชิดไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ขอขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้น้องปู นะครับ ขอขอบคุณแทนน้องปูด้วยครับ จากใจพ่อปู”
จากนั้นวันที่ 18 เม.ย. พ่อของผู้เสียชีวิตอัพเดต อีกว่า “อาการล่าสุดน้องปู 18 เม.ย. หมอยังให้ยานอนหลับต่อเนื่องและให้ยาฟื้นฟูปอด เพื่อให้ปอดกลับมาทำงานได้เป็นปกติ ยังคงต้องให้อาหารทางสายไปก่อน แต่อาการโดยรวมถือว่าดีขึ้นมาก อวัยวะอย่างอื่นทำงานปกติหมด ยกเว้นปอด ขอบคุณทุกความห่วงใยนะครับ พ่อปู”
สลดเจอโรคแทรกซ้อน ปอดอักเสบ-ติดเชื้อในกระแสเลือด
ล่าสุด เมื่อวันที่ 27 เม.ย.2564 เวลา 22.00 น. หญิงสาวผู้ป่วยโควิด-19 รายดังกล่าว เกิดภาวะวิกฤตหัวใจหยุดเต้น แพทย์ พยาบาล ปั้มหัวใจ แต่ปรากฏผู้ป่วยไม่ฟื้นคืนชีพเสียชีวิตในเวลาต่อมา ด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 โรคแทรกซ้อนคือปอดอักเสบ และ ติดเชื้อในกระแสโลหิต ประกอบกับผู้ป่วยรายนี้มีปัจจัยเสี่ยง คือ ภาวะอ้วน นับเป็นผู้เสียชีวิตรายแรกของจังหวัดราชบุรี
