เลย แจ้งดำเนินคดี ผัวเมีย ติดโควิด กลับจากขายลอตเตอรี่ไม่รายงานตัว-ปกปิดไทม์ไลน์ ก่อนนำเชื้อไปติดในครอบครัว และแพร่กระจายในพื้นที่
วันที่ 30 เม.ย.2564 นายภูริวัจน์ โชตินพรัตน์ นายอำเภอวังสะพุง พร้อมด้วย นายอำนวย เกษทองมา กำนันตำบลผาบิ้ง และ อสม.ในพื้นที่ เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังสะพุง ให้ดำเนินคดีกับ สามีภรรยาติดเชื้อ โควิด-19 มีอาชีพขายลอตเตอรี่อยู่ อ.วังสะพุง ได้กลับจากการขายลอตเตอรี่ที่จ.นครศรีธรรมราช ฝ่าฝืนไม่ยอมไปรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ และปกปิดไทม์ไลน์ ตามคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเลย ซึ่งได้นำเชื้อไปติดต่อครอบครัวและผู้ใกล้ชิด เป็นเหตุให้มีการติดเชื้อ และเจ้าหน้าที่ต้องมีการใช้บุคลากรเพิ่มขึ้น ในการเฝ้าระวังและติดตาม
นายภูริวัจน์ กล่าวว่า ตามประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเลย เรื่องมาตรการการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่อไวรัสโคโลนา 2019 จังหวัดเลย ได้ออกมาตรการ และบังคับใช้ใน จ.เลย ให้ผู้ที่ต้องการจะเดินทางเข้ามาในจังหวัด หรือคนจังหวัดเลยก็ตาม หากเดินทางมาจากต่างจังหวัด ถ้าเข้าสู่พื้นที่ พร้อมกับบังคับใช้ คนขายลอตเตอรี่ที่เดินทางไปขายตามต่างจังหวัด เมื่อกลับมาทุกคนต้องขอให้ไปรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ ใน 5 เสือ จะมี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อสม. รพ.สต. เพื่อที่จะประเมินความเสี่ยงตัวเอง และครอบครัว
เลย แจ้งดำเนินคดี ผัวเมีย ติดโควิด กลับจากขายลอตเตอรี่ไม่รายงานตัว-ปกปิดไทม์ไลน์
นายภูริวัจน์ กล่าวต่อว่า แต่ก็ยังมีผู้ไม่ปฏิบัติตาม และหลบหลีกไม่ยอมไปรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ ทำให้สถานการณ์การแพ่ระบาดของโควิด-19 มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในจ.เลย ส่วนหนึ่งผู้ป่วยติดเชื้อมีประวัติสัมผัสเสี่ยงสูงจากคนป่วยยืนยัน และคนในครอบครัวเป็นหลัก ส่วนใหญ่ที่พบมักจะนำเชื้อมาจากที่อื่น แล้วนำเชื้อมาแพร่เข้าสู่ครอบครัวและผู้ใกล้ชิด
นายภูริวัจน์ กล่าวอีกว่า อย่างกรณีของ 2 สามีภรรยา ภูมิลำเนาอยู่บ้านนาแกใต้ ต.ผาบิ้ง อ.วังสะพุง กลับจากการขายลอตเตอรี่ที่ จ.นครศรีธรรมราช ไม่ยอมไปรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ และยังปกปิดไทม์ไลน์ ซึ่งได้นำเชื้อไปติดต่อครอบครัวและผู้ใกล้ชิด
“ทางจังหวัดนำโดย นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้มอบหมายให้กำนันบ้านผาบิ้ง พร้อมกับ อสม.ในพื้นที่ เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังสะพุง ดำเนินคดีกับผู้ป่วยติดเชื้อ 2 สามีภรรยา ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามประกาศ เป็นความผิดตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 และตามกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ในสถาณการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ซึ่งจะมีโทษทั้งจำทั้งปรับ” นายภูริวัจน์ กล่าว
