หมอยง รับฉีดวัคซีน มีความเสี่ยง แต่มีประโยชน์มากกว่า ชี้อันตรายโอกาส 1 ในล้าน ยกในไทยยังไม่มีใครเสียชีวิตเพราะวัคซีน ส่วนใหญ่เป็นอาการเพียงชั่วคราว
วันที่ 4 พ.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการแถลงข่าวประจำวันของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้นำคำให้สัมภาษณ์ของ นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาเปิดก่อนการแถลงข่าว
โดย นพ.ยง ระบุว่า ถ้าเรามองย้อนไปถึงการระบาดปีที่แล้ว เป็นสายพันธุ์การระบาดสายพันธุ์มาจากอู่ฮั่น จนกระทั่งระบาดที่จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ได้มาจากเมียนมา สายพันธุ์นั้นก็เหมือนสายพันธุ์ทั่วไป ซึ่งระบาดอยู่ทั่วโลก
แต่การระบาดครั้งใหม่ช่วงปลายเดือนมี.ค.และเม.ย. เป็นสายพันธุ์อังกฤษ ซึ่งสายพันธุ์นี้ได้รับมากจากกัมพูชา ซึ่งปริมาณไวรัสในลำคอของผู้ป่วยจะมีเป็นจำนวนมาก และไวรัสนี้ยังติดต่อง่ายกว่าไวรัสสายพันธุ์ดั้งเดิม 1.7 เท่า ผู้ป่วยของเรายอดสูงที่สุดตั้งแต่มีการระบาดมา ในวันนี้เราจะเห็นว่ามีการสูญเสียชีวิตค่อนข้างมากถ้าเปรียบเทียบกับในอดีต หรือถ้าพูดเฉลี่ยง่ายๆ คือ 1% ของผู้ป่วย
นพ.ยง กล่าวว่า ดังนั้นการป้องกันที่สำคัญที่สุด คือ ถ้าทุกคนสวมหน้ากากอนามัย ก็จะลดการแพร่กระจาย ผู้อยู่ใกล้ชิดโอกาสจะรับเชื้อจะน้อยลง การกำหนดระยะห่างก็สำคัญมาก ทั้งสถานบันเทิงหรือสถานที่ที่มีเครื่องปรับอากาศ สถานที่ปกปิด โอกาสที่จะติดเชื้อง่ายกว่า เชื้อนี้ถ้าเราไปสัมผัสแล้วมือมาถูกหน้าตา ก็จะเข้าได้ เพราะฉะนั้นทุกคนต้องคอยหมั่นล้างมือ
สิ่งที่สำคัญอีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วยลดการระบาด คือ การให้วัคซีน การฉีดวัคซีน ถ้าถามว่าการฉีดวัคซีนมีความเสี่ยงหรือไม่ ก็มีความเสี่ยง แต่ความเสี่ยงนี้ ถ้าเปรียบเทียบกับผลประโยชน์ที่ได้ การเป็นโรคโควิดและมีโอกาสเสียชีวิต ถึงอย่างน้อย 1% กับการฉีดวัคซีนแล้ว โอกาสเกิดอันตรายจากวัคซีน อาจจะเป็น 1 ในหลายแสน หรือ 1 ในล้าน ความเสี่ยงกับประโยชน์ที่ได้ห่างกันเป็นพันเท่า
แต่การแพ้วัคซีนที่เราเห็นเป็นข่าว ส่วนใหญ่เป็นอาการเพียงชั่วคราว เราจะเห็นว่าในประเทศไทยยังไม่มีใครเสียชีวิตที่เกิดจากวัคซีน ตนเคยเปรียบเทียบเสมอว่า ความเสี่ยงในการข้ามถนนของตนอาจจะมากกว่าการฉีดวัคซีนด้วยซ้ำ เราจึงกำหนดให้ทุกคน ขอให้มาฉีดวัคซีน และเรามีมาตรการป้องกันการเกิดอันตรายขึ้นอยู่แล้ว โดยการให้ฉีดที่โรงพยาบาล
