กระทรวงยุติธรรม ผวา บุคลากร สำนักงานปลัดฯ ติดโควิด 6 ราย สั่งกักตัวผู้สัมผัสใกล้ชิด 14 วัน ประสานหน่วยงานทำความสะอาดฉีดพ่นฆ่าเชื้อ
วันที่ 7 พ.ค.2564 นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และโฆษกกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้รับรายงานว่ามีบุคลากรของสำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 1 ราย โดยมีไทม์ไลน์เข้าปฏิบัติงานที่อาคารกระทรวงยุติธรรม ในวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา ช่วงเวลา 05.00-08.00 น. และได้ปฏิบัติงาน ณ ที่พักอาศัย ตั้งแต่วันที่ 26-30 เม.ย.
นายวัลลภ กล่าวต่อว่า ซึ่งขณะนี้เข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้ดำเนินการทำความสะอาดฆ่าเชื้อในพื้นที่อาคารตามมาตรการทางสาธารณสุข พร้อมทั้งสั่งการให้ผู้สัมผัสใกล้ชิดกักตัวเองภายในที่พักอาศัย และเฝ้าสังเกตอาการ โดยได้อำนวยความสะดวกให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด 19 กับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา
นายวัลลภ กล่าวอีกว่า ล่าสุดเมื่อเวลา 17.30 น.ของวันที่ 6 พ.ค. ได้รับรายงานว่า พบบุคลากรของสำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มเติม จำนวน 5 ราย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานกับโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษา ทำให้ขณะนี้สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม มีบุคลากรเป็นผู้ป่วยโรคโควิด-19 ยืนยันสะสม จำนวน 6 ราย
นายวัลลภ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ ได้แจ้งไปยังสำนักงานเขตหลักสี่ ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล และศูนย์บริการสาธารณสุข 53 ทุ่งสองห้อง เพื่อทำความสะอาดเชื้ออย่างเต็มรูปแบบ ทำการตรวจสอบสถานที่และสอบสวนโรคแล้ว โดยกำหนดดำเนินการในวันนี้ ตามแนวทางการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมสั่งการให้บุคลากรที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ ทำการกักตัว ณ ที่พักอาศัย เฝ้าสังเกตอาการ เป็นเวลา 14 วัน โดยกำชับให้ปฏิบัติเคร่งครัด
“ที่ผ่านมา สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้ปฏิบัติตามประกาศกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ด้วยการจัดเจ้าหน้าที่เช็ดทำความสะอาดลิฟต์โดยสาร และจุดบริการอย่างสม่ำเสมอ เว้นระยะห่างเพื่อลดความเสี่ยงจากการสัมผัสใกล้ชิด ตั้งจุดคัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าอาคาร บุคคลภายนอกที่มาติดต่อต้องมีการลงทะเบียนทุกครั้ง และมีมาตรการให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ปฏิบัติงานภายในที่พัก (Work From Home) ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 โดยได้กำชับบุคลากรให้งดและหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสถานที่เสี่ยงและต้องรายงานสถานะความเสี่ยงของตนเองในระบบ OPS Intranet เป็นประจำทุกวัน” นายวัลลภ กล่าว
