โควิด : รายแรกของพะเยา! รักษาเชื้อโควิดจนหาย แต่สุดยื้อ จู่ๆ หญิงวัย 61 ทรุด-สิ้นใจ เพราะเชื้อทำลายปอด จนระบบหายใจล้มเหลว

วันที่ 11 พ.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์โควิดในพื้นที่ จ.พะเยา ล่าสุดในพื้นที่ ต.ฝายกวาง อ.เชียงคำ จ.พะเยา พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เสียชีวิต เป็นหญิง อายุ 61 ปี เข้ารับการรักษาตัวเมื่อวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังจากนั้นอาการได้ทรุดลง ทีมแพทย์ก็ได้ส่งตัวไปรักษาที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ จนหายขาดแล้วนำตัวกลับมารักษาต่อที่ รพ.เชียงคำ อีกครั้ง แต่ด้วยเชื้อโควิดกัดกินปอดไปบางส่วน จนทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

นพ.ปรัศนี อารีรัตน์ นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ ด้านเวชศาสตร์ป้องกัน ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า หลังจากที่ผู้ติดเชื้อรายนี้เข้าทำการรักษาตัวเมื่อวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา และวันที่ 13 เม.ย. ได้เอ็กซเรย์บริเวณปอดจนพบเชื้อที่ชัดเจน ตนและทีมแพทย์ก็ได้ให้ยารักษาอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 18 เม.ย. ซึ่งการรักษาดังกล่าวจำเป็นต้องใช้ยาหลายตัวเพื่อให้เชื้อโควิดนี้หายไปจากร่างกาย แต่กลับว่าปรากฏว่าอาการผู้ป่วยทรุดลงจนต้องส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์

โดยใช้เวลารักษาตัว 10 วัน แพทย์ก็ได้รักษาต่อจนปรากฏว่าเชื้อโควิดได้หายขาดไปจากผู้ป่วย ทาง รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ จึงได้ส่งตัวผู้ป่วยรายนี้กลับมารักษาตัวต่อที่ รพ.เชียงคำ ในวันที่ 28 เม.ย. ภายในห้องความดันลบ แต่เมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา กลับพบว่าอาการผู้ป่วยไม่ดีขึ้น ด้วยมีภาวะเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนภายในปอด จนทำให้ปอดบวมและระบบหายใจล้มเหลว จนเสียชีวิตต่อมาในเวลา 09.00 น.

นพ.ภราดร มงคลจาตุรงค์ ผอ.รพ.เชียงคำ กล่าวว่า เวลานี้ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาตัวซึ่งติดเชื้อโควิดในพื้นที่ อ.เชียงคำ และ อ.ภูซาง นั้นได้หายขาดจนเดินทางกลับบ้านได้แล้ว แต่ด้วยรายนี้ซึ่งมีโรคประจำตัวคือโรคความดันประกอบกับเชื้อโควิดได้ทำลายปอดไปบางส่วน จนมีเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนทำให้ระบบทางเดินหายใจล้มเหลวในที่สุด ทั้งนี้ทีมแพทย์ของ รพ.เชียงคำก็ได้รักษาอย่างสุดความสามารถด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ตนจึงอยากขอฝากในเรื่องของวัคซีนป้องกันโควิด ตนอยากให้พี่น้องประชาชนได้หันมาฉีดกันให้เยอะๆ เพื่อที่จะได้ป้องกันโรคนี้ได้เต็มที่ ส่วนผลข้างเคียงตามข่าวนั้น ตนขอยืนยันว่าในพื้นที่ของ อ.เชียงคำ และ อ.ภูซาง ยังไม่ปรากฏว่าผู้ที่ฉีดไปแล้วเกิดการเสียชีวิตและเป็นอัมพาตชั่วขณะตามที่หลายพื้นที่กล่าวอ้างมา

ด้านลูกชายของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนเข้าใจการทำงานของแพทย์เป็นอย่างดี ไม่โทษการรักษา เพราะทีมแพทย์ได้ช่วยเหลือแม่อย่างเต็มที่แล้ว ทั้งนี้ตนอยากให้ทุกคนได้เข้าใจในสถานการณ์ตอนนี้ว่า โรคโควิดนี้ ทุกคนควรป้องกันตัวเองอย่างเต็มที่ด้วยเช่นกัน เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นแบบนี้ด้วยเช่นกัน ส่วนศพของแม่จะทำการฌาปนกิจในเวลา 13.00 น.ของวันนี้ โดยผู้เข้าร่วมจะมีเพียงญาติพี่น้องไม่กี่รายเท่านั้น

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน