นายกรัฐมนตรี ตรวจความพร้อม สถานที่บริการฉีดวัคซีน นอก รพ. ตั้งเป้า รองรับวันละพันคน เตรียมพร้อมสถานที่ฉีดไว้อีก 14 แห่ง เร่งฉีดคนทำงานด่านหน้า อาชีพเสี่ยง
เมื่อวันที่ 12 พ.ค. ที่ บริเวณชั้น 3 sky Hall ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว เขตจตุจักร พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม.ให้การต้อนรับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะ ในโอกาสตรวจเยี่ยมสถานที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 นอกโรงพยาบาล โดยมี นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารกทม. ผู้บริหารสำนักอนามัย สำนักการแพทย์ ผู้บริหารโรงพยาบาลรามาธิบดี ผู้บริหารกลุ่มเซ็นทรัลกรุ๊ป และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า สถานที่ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล หรือ “หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็นความร่วมมือบริการวัคซีนโควิด-19 ระหว่างกทม. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และโรงพยาบาลรามาธิบดี ซึ่งมีความพร้อมในการให้บริการวัคซีนตามขั้นตอนต่างๆ ครบถ้วน อาทิ จุดลงทะเบียน จุดวัดน้ำหนักส่วนสูง จุดวัดความดัน จุดฉีดวัคซีน และจุดพักสังเกตอาการหลังการฉีด สามารถให้บริการ 1,000 คน /วัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
กลุ่มเป้าหมายแรกของการให้บริการจะเป็นกลุ่มบุคลากรด่านหน้า ที่ต้องปฏิบัติงานในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคและกลุ่มที่มีอาชีพเสี่ยงที่มีโอกาสสัมผัสกับคนจำนวนมากซึ่งได้รับการลงทะเบียนกับสำนักอนามัย กทม. ไว้เรียบร้อยแล้ว
เบื้องต้นได้จัดเตรียมสถานที่ฉีดวัคซีนของภาคเอกชนเพื่อให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 นอกโรงพยาบาล จำนวน 14 แห่ง ได้แก่ 1. เซ็นทรัล ลาดพร้าว ร่วมกับโรงพยาบาลรามาธิบดี 2. เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ร่วมกับโรงพยาบาลวชิรพยาบาล 3. ไอคอนสยาม ร่วมกับโรงพยาบาลศิริราช 4. True Digital Park ร่วมกับโรงพยาบาลศิริราช 5. สามย่านมิตรทาวน์ ร่วมกับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
6. SCG บางซื่อ ร่วมกับกรมการแพทย์ 7. เดอะมอลล์ บางกะปิ ร่วมกับโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี 8. เดอะมอลล์ บางแค ร่วมกับมหาวิทยาลัยสยาม โดยคณะแพทยศาสตร์และคณะพยาบาลศาสตร์ 9. ธัญญาพาร์ค ร่วมกับโรงพยาบาลเครือบางปะกอก 10. เอเชียทีค ร่วมกับโรงพยาบาลเครือบางปะกอก 11. โรบินสัน ลาดกระบัง ร่วมกับโรงพยาบาลเครือบางปะกอก 12. โลตัส มีนบุรี ร่วมกับโรงพยาบาลเครือบางปะกอก 13. บิ๊กซี บางบอน ร่วมกับโรงพยาบาลเครือบางปะกอก และ 14. PTT Station พระราม 2 ร่วมกับโรงพยาบาลเครือบางปะกอก
นอกจากนี้สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้เสนอสถานที่ฉีดวัคซีนเพิ่มเติมอีก 11 แห่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมพร้อมอุปกรณ์และบุคลากร โดยสำนักอนามัยจะลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยเพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด และเมื่อสามารถเปิดให้บริการครบทั้ง 25 แห่ง แต่ละแห่งจะมีศักยภาพการให้บริการฉีดวัคซีนอยู่ที่ 1,000-3,000 คน/วัน รวมสามารถให้บริการได้ 38,000-50,000 คน/วัน โดยทุกแห่งจะเปิดให้บริการต่อเนื่อง 7 เดือน เพื่อให้การบริการวัคซีนเป็นไปอย่างทั่วถึง รวดเร็วและปลอดภัย
ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกทม. กล่าวว่า ขณะนี้วัคซีนกำลังทยอยจัดสรรให้เพียง โดยวันนี้จึงมีการฉีดให้กับ กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ด่านหน้า อาสาสมัคร จิตอาสา ที่ทำงานเกี่ยวกับการบริการโควิด โดยตรง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ด่านหน้าที่ต้องให้บริการประชาชน จึงได้มีการจัดสรรวัคซีนไว้ก่อนหน้านี้แล้ว และนำมาฉีดในวันนี้
ส่วน กลุ่มอาชีพเสี่ยง ประกอบด้วย คนขับรถสาธารณะ แท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เจ้าหน้าที่ประจำท่าอากาศยานดอนเมือง ทั้งลูกเรือ กัปตัน ฟรอนไลน์ การไฟฟ้านครหลวง การประปานครหลวง การท่าเรือ เจ้าหน้าที่พนักงานกวาดประจำ 50 สำนักงานเขต พนักงานเก็บขยะ กทม. ครู และบุคลากรทางการศึกษาในพื้นที่กรุงเทพฯ
ขณะนี้สำนักอนามัย มีรายชื่อทั้งหมดแล้ว เพียงแต่รอการจัดสรรวัคซีนเท่านั้น ทันทีที่วัคซีนมาถึงจึงจะแจ้งให้มารับวัคซีนได้ โดยระหว่างนี้กลุ่มที่ยังไม่ได้ลงทะเบียน ยังไม่ต้องมาที่จุด ให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 นอกโรงพยาบาล หากวัคซีนมาถึงแล้ว กทม.จึงจะแจ้งให้ทราบ เพื่อนัดมาฉีดวัคซีนต่อไป อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือประชาชนที่ไม่ได้ลงทะเบียนกับกลุ่มเป้าหมายของสำนักอนามัย งดเว้นเดินทางมายังจุดให้บริการดังกล่าว เพื่อความปลอดภัยของทุกท่านและช่วยให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
สำหรับประชาชนทั่วไปขอให้ติดตามความคืบหน้าการเปิดลงทะเบียนจองฉีดวัคซีนต่อไป
