‘อนุทิน’ ตอบปม บุรีรัมย์ สั่งใช้ กม.เอาผิดคนไม่ฉีดวัคซีน ชี้ผู้ว่าราชการจังหวัด มีสิทธิวางนโยบายเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในจังหวัดตัวเอง
กรณีคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ออกคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ 13/2564 เรื่องการป้องกันการระบาดใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2564 ให้ผู้ที่มีความเสี่ยงตามความเห็นของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 หากฝ่าฝืนจะมีโทษตามมาตรา 49 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โรคติดต่อ พ.ศ.2558 นั้น
วันที่ 14 พ.ค.64 ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ยังไม่เห็นข้อความตามประกาศดังกล่าว ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการควบคุมโรคโควิด-19 ภายใต้การดำเนินงานของ ศูนย์บริหารสถานการณ์โคิวิด-19 หรือ ศบค. ตามขอบข่ายกฎหมาย ทั้งพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสามารถออกกฎเกณฑ์ วางนโยบาย ควบคุมโรคภายในจังหวัดให้มีความปลอดภัยได้ภายใต้ขอบข่ายของกฎหมาย
นายอนุทิน กล่าวว่า ส่วนการบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 กระทรวงสาธารณสุขต้องได้รับการร้องขอจากทางจังหวัด องค์กรต่างๆ ผ่าน ศบค.เพื่อให้เร่งจัดส่งวัคซีนไปอย่างทันท่วงที ให้ครอบคลุมและเพียงพอ
ผู้สื่อข่าวถามว่านโยบายการฉีดวัคซีนเป็นไปตามความสมัครใจ แต่การออกประกาศแบบนี้เข้าข่ายเป็นการบังคับรับวัคซีนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่เห็นประกาศ แต่ผู้ว่าราชการจังหวัดมีสิทธิวางนโยบายเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในจังหวัดของตัวเอง
“คิดว่าคงดูแล้วว่าอะไรที่ชอบด้วยกฎหมายหรือขัดกฎหมาย ถ้าไม่ขัดกฎหมายก็เป็นไปตามนั้น ทั้งนี้ ศบค.เป็นผู้ดูแลสถานการณ์ ส่วนกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้สนับสนุนภารกิจ ทั้งเวชภัณฑ์ วัคซีนก็ดี การป้องกัน การรักษาและการทำให้เกิดความปลอดภัยจากการระบาด”นายอนุทิน กล่าว
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าการออกประกาศดังกล่าวเพราะถูกสั่งการ เนื่องจากก่อนหน้านี้ตัวเลขลงทะเบียนรับวัคซีนผ่านไลน์ “หมอพร้อม” น้อยมาก แค่หลักพันราย ทั้งที่เป็นพื้นที่ของรมว.สาธารณสุข พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน กล่าวว่า อย่าโยง วันนี้ตนเป็น รมว.สาธารณสุข ไม่ใช่หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ต้องดูแลคนทุกคนในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นพรรคไหน หน่วยไหน ถ้าคิดเป็นการเมืองโดยเอาสุขภาพประชาชนมาเป็นข้อต่อรอง มาชิงไหวชิงพริบกันทางการเมือง ประเทศอยู่ไม่ได้ ตัวรัฐมนตรีก็อยู่ไม่ได้ ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายการบริหารราชการแผ่นดิน
