ศบค.แถลงสถานการณ์ โควิดวันนี้ ยอดสะสม 1.1 แสนกว่าราย กำลังรักษา 4.3 หมื่นราย ดับเพิ่ม 25 ราย พบคนขับรถรับจ้างดับ 1 ราย นอนรักษาตัวนานสุด 31 วันก่อนเสียชีวิต เจอคนไทยลักลอบกลับจากกัมพูชา ติดเชื้อ 1 ราย ส่วน 10 จังหวัดติดเชื้อใหม่สูงสุดใกล้เคียงเดิม กทม.พบ 1,843 ราย
วันที่ 17 พ.ค.64 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวัน ว่า วันนี้ประเทศไทยติดเชื้อรายใหม่ 9,635 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังในโรงพยาบาล 1,820 ราย ค้นหาเชิงรุกในชุมชน 953 ราย มาจากเรือนจำและที่ต้องขัง 6,853 ราย และเดินทางจากต่างประเทศ 9 ราย รักษาหายเพิ่ม 1,397 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 25 ราย
ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสม 111,082 ราย รักษาหายสะสม 67,200 ราย และเสียชีวิตสะสม 614 ราย ส่วนระลอกใหม่เดือนเม.ย.เป็นต้นมา ติดเชื้อสะสม 82,219 ราย หายป่วยแล้ว 39,774 ราย เสียชีวิตสะสม 520 ราย ยังรักษาอยู่ 43,268 ราย อยู่ในโรงพยาบาล 22,662 ราย และโรงพยาบาลสนาม 20,606 ราย อาการหนัก 1,226 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 400 ราย คิดเป็น 33%
ฉีดวัคซีนแล้ว 2,264,308 โดส เป็นเข็มแรก 1,482,702 ราย และเข็มสอง 781,606 ราย
สัดส่วนการติดเชื้อในเรือนจำ
ผู้เสียชีวิต 25 ราย อยู่ใน กทม. 18 ราย สุพรรณบุรี สุโขทัย สมุทรสาคร สมุทรปราการ นนทบุรี นครสวรรค์ และชัยนาท จังหวัดละ 1 ราย อายุ 33-86 ปี อายุเฉลี่ย 60 ปี เป็นชาย 15 ราย หญิง 10 ราย
ส่วนใหญ่ยังมาจากโรคประจำตัวเหมือนเดิมคือความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง หลอดเลือดสมอง ไต หัวใจ อ้วน ปอดเรื้อรัง มะเร็ง ส่วนปัจจัยเสี่ยงมาจากคนในครอบครัวครึ่งหนึ่ง คนอื่นๆ เดินทางไปพื้นที่ระบาด อาชีพเสี่ยงคือขับรถรับจ้าง 1 ราย นอนรักษานานที่สุด 31 วันก่อนเสียชีวิต
“หลายคนตั้งคำถาม ทำไมเมื่อวานในเรือนจำเป็น 0 วันนี้พุ่งขึ้นมา ก็อยู่ในระบบของการค้นหาเชิงรุก รอการรายงานเป็นรายกลุ่มออกมา สำหรับคนเดินทางมาจากต่างประเทศ 9 ราย ได้แก่ มาเลเซีย 4 ราย เป็นคนไทยที่เข้ามาตามด่านถูกกฎหมาย ไอร์แลนด์ อิสราเอล และปากีสถาน ประเทศละ 1 ราย
ส่วนกัมพูชา 2 ราย เข้ามาช่องทางธรรมชาติ เป็นหญิงไทย อายุ 60 ปี อาชีพรับจ้าง ส่วนอีกรายนักคอมพิวเตอร์ นหญิงไทย อายุ 17 ปี เข้ามาช่องทางปกติ ขออย่าลักลอบเข้ามา เราจะดูแลอย่างดี ตอนนี้เราต้องการควบคุมโรคเป็นหลัก ขอให้แสดงตัว เมื่อวานลักลอบเข้ามา 87 คนทั่วประเทศ เจอที่ติดชายแดน 72 คน พบพื้นที่ตอนในถึง 15 คน” นพ.ทวีศิลป์กล่าว
สำหรับจังหวัดที่ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด 10 อันดับแรก ประกอบด้วย 1.กทม. 1,843 ราย สะสม 27,785 ราย 2.สมุทรปราการ 155 ราย สะสม 4,208 ราย 3.ปทุมธานี 146 ราย สะสม 2,350 ราย 4.นนทบุรี 129 ราย สะสม 4,602 ราย
5.สมุทรสาคร 53 ราย สะสม 1,867 ราย 6. ชลบุรี 45 ราย สะสม 3,735 ราย 7.สงขลา 42 ราย สะสม 1,012 ราย 9.นครปฐม 36 ราย สะสม 958 ราย และ 10.พระนครศรีอยุธยา 31 ราย สะสม 908 ราย
