“อนุทิน” เรียก นพ.สสจ. 8 จว. หารือจัดการวัคซีน สั่งฉีดเข็มแรกให้จบใน ก.ย.ครอบคลุม 70% ประชากร วัคซีนแอสตร้า 1 ขวดต้องฉีดได้ 12 โดส พร้อมฉีด อสม.ให้ครบทุกคน

วันที่ 19 พ.ค.64 ที่ รพ.บุษราคัม อิมแพค เมืองทองธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ. ประชุมร่วมกับผู้ตรวจราชการ สธ.และ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด 8 จังหวัด ในเขตสุขภาพที่ 4 เพื่อมอบนโยบายการบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19

นายอนุทิน กล่าวว่า ได้มอบนโยบายให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทำงานร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด ใช้กลไกคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 ซึ่งตั้งแต่มิถุนายนเป็นต้นไป จะมีการส่งมอบวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าจำนวนมาก ขอให้สำรวจความต้องการของประชาชน เสนอจำนวนวัคซีนและแผนการกระจายวัคซีน

โดยเน้นย้ำให้เร่งฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ได้ตามตามเป้าหมายคือร้อยละ 70 ของประชากร ภายในเดือนกันยายน 2564 และไม่ต้องสำรองสำหรับเข็ม 2 เนื่องจากจะมีวัคซีนทยอยเข้ามาเรื่อยๆ โดยจะฉีดให้ผู้ที่ลงทะเบียนผ่านหมอพร้อมให้ครบตั้งแต่ มิ.ย.-ก.ค.2564 นอกจากนี้วัคซีน 1 ขวด ซึ่งปกติระบุว่ามี 10 โดส แต่ปริมาณวัคซีนให้มามากกว่า 10 โดส จึงขอให้ฉีดให้ได้ 12 โดส จะช่วยประหยัดงบประมาณและฉีดวัคซีนได้มากขึ้น

“แม้จะมีการนัดคิวฉีดวัคซีน แต่ถึงเวลาจริงอาจมีผู้ที่ไม่ได้มาตามนัด ต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องนี้ เนื่องจากนำวัคซีนออกมาแล้วไม่สามารถนำกลับไปแช่หรือกลับไปสต๊อกได้ ต้องใช้ให้หมด จึงต้องเตรียมผู้เข้ามารับวัคซีนในส่วนนี้ด้วย” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ขอให้เร่งฉีดวัคซีนในกลุ่ม อสม.ที่เป็นบุคลากรสาธารณสุขด่านหน้าให้ครบทั้งหมดโดยเร็ว เนื่องจากต้องเข้าไปดูแลประชาชนในครัวเรือน ถือว่ามีความเสี่ยง ส่วนหน่วยงาน องค์กรที่รวมกันมาฉีดเป็นกลุ่มจำนวนมาก หากสามารถจัดสถานที่และบุคลากรในการฉีดวัคซีน เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระงานของกระทรวงสาธารณสุขจะได้รับการพิจารณาเป็นลำดับต้นๆ

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน