แฟนเพจดังสายวิเคราะห์ Branding by Boy ร่ายยาวกรณีปมดราม่า มิ้นท์ i roam alone บล็อกเกอร์สาวสายเที่ยวคนดัง ที่พูดถึง “ข้อดีของโควิด”

24 พ.ค. 2564 – กลายเป็นเรื่องราวดราม่าในโลกออนไลน์ไปเสีย สำหรับกรณีที่ มิ้นท์ i roam alone บล็อกเกอร์สายท่องเที่ยวคนดัง ได้โพสต์คลิปที่ตนเองบินไปสหรัฐอเมริกา พร้อมระบุว่า “สิ่งดีข้อเดียวของโควิด คือทำให้เราเห็นคุณค่าของสิ่งที่เราเคยมี แล้วก็มองเห็นความพิเศษในความธรรมดา” จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์เสียงแตกกันไปต่างๆ นานา

ล่าสุดแฟนเพจเฟซบุ๊ก Branding by Boy ได้แสดงความคิดเห็นในประเด็นดังกล่าว โดยมีการโพสต์ภาพสาวมิ้นท์ และ พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล ที่เคยออกมากล่าวว่า “โควิดคือของขวัญ” พร้อมระบุใจความดังนี้

ประเด็นนี้เกิดขึ้นมาจากการที่บอยกลิ้ง twitter แล้วมีคนนำเสนอเรื่อง #โควิดคือความงดงาม ตาม quote ด้านล่าง บอยเลยคิดว่า บอยอยากชวนคุยเรื่องนี้อย่างกว้างขวาง

1) บอยอยากบอกว่าประเด็นพวกนี้ ทำให้ทัวร์ลงง่ายมาก เพราะบริบทของสังคม มีคนเดือดร้อนในชีวิตจากโรคระบาดเป็นจำนวนมาก พอมีคน Romanticize ในเรื่องที่คนส่วนใหญ่มองว่าเป็นความอยู่รอด คนมีความเห็นที่ต่อต้าน และรู้สึกหดหู่กับความโลกสวยนั้นอย่างแน่นอน

2) การหาข้อดี หรือความงดงาม ในสถานการณ์ที่มีความลำบาก เป็นลักษณะทางจิตวิทยาหนึ่งในกลไกการปกป้องตนเองของมนุษย์ (Self-Defense Mechanism) ในการสร้างความบิดเบือนในการหาเหตุผลให้สิ่งที่ตกอยู่ในสถานการณ์แย่ๆ ให้เป็นบวก (Rationalization) ซึ่งมันมีผลในการพยายามทำให้ตนสบายใจจากการคิดลบ รู้สึกแย่ ทุกข์ หรือเสียใจ ซึ่งหากมนุษย์ทำบ่อยๆ จะเข้าขั้นที่เป็นจุดเริ่มต้นของอาการทางจิต —- หาอ่านได้จาก Sigmund Freud’s Theory นะครับ

3) คุณลองมองดูดีๆ คนที่เห็นความงามของสถานการณ์โควิด สามารถมองได้ว่าเป็นวิธีคิดแบบ ignorant คือกลุ่มที่ไม่แยแสสังคม หรือไม่ได้รับผลกระทบอย่างหนักทางสังคม ความสุขสบายหรือความผ่อนคลายที่เกิดขึ้นกับคนกลุ่มหนึ่ง อาจจะไม่ได้เป็นภาพเดียวกันกับคนอีกกลุ่มที่ชีวิตวิกฤติหนักหนาในขณะนี้

ตัวอย่างเช่น ‘คุณมินท์’ ที่ถือว่าเป็นคนมีเงินบิน Business Class ไปฉีดโควิดต่างประเทศ อยู่ในจุดนั้นถือโอกาสท่องเที่ยวได้เป็นเดือน ก็สามารถพูดประโยคข้อคิดสวยงาม หาแง่งามได้ เพราะเป็นความสบายใจกับประสบการณ์ตรงหน้า หรือพระสงฆ์ ที่ยังพอมองโควิดสวยงามได้ เพราะไม่ได้วุ่นวายทางโลก เท่ากับปุถุชนที่ปากกัดตีนถีบ และเอาตัวรอดในการดำเนินชีวิตอย่างหนักหนามาก

4) ปัญหาของประเด็นนี้ สำหรับบอยคือ ‘communication’ บน conflict of context แม้โทนของมันจะบวก หรือให้แง่งามทางสังคม แต่มันเป็นการสื่อสารท่ามกลางบริบทประเทศ หรือความรู้สึกของผู้คนไม่ได้มองว่ามันงดงามตามไปด้วย และอ่อนไหวต่อการเผชิญหน้ากับโรคระบาด แบบว่าไม่รู้จะเอามุมไหนมาหาแง่งามได้ เพราะมีทั้งการฆ่าตัวตาย เสี่ยงฉีดวัคซีน ปิดกิจการ ตกงาน และอดอยาก มันขัดแย้งมากเมื่อมีคนอีกกลุ่มบอกว่า ‘ฉันเจอสิ่งสวยงามที่ซ่อนไว้บนความทุกข์ร้อนของผู้คน’

5) ไม่ใช่ทุกข้อคิด หรือทุกคำสอน ที่สามารถใช้ได้กับทุกช่วงเวลาจริงๆ เพราะแต่ละคนเจอเรื่องราว ประสบการณ์ และการเผชิญหน้ากับปัญหาไม่เหมือนกัน ช่วงหนึ่งที่มี life coach มาชวนคุยความงามของโควิดเพียบ ก็ทัวร์ลงกันมาอย่างมากมาย เพราะเวลานี้ ความงดงามของบางคนที่รู้สึกผ่อนคลาย และอาจจะได้เรียนรู้เรื่องราวดีๆจากความสุขสงบ แต่กับบางคนอาจดิ้นรน และปางตาย สำหรับเขาก็เป็นได้

6) ถ้ามองแบบมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง บนตรรกะและเหตุผลจริงๆ ถ้ามันดีจริง ‘คุณมินท์คงรักษาความเสี่ยงโรคไว้ ไม่ต้องบินไปฉีดวัคซีนคุณภาพที่อเมริกา’ แต่นี่คือความย้อนแย้งที่เกิดขึ้นกับคำพูดใน VDO ไงครับ เพราะความสวยงามที่คุณเจอข้อดีข้อเดียว มันก็ยังไม่มากพอให้คุณเก็บความเสี่ยงโรคไว้กับตนเองเลยครับ แสดงว่าโควิดมันไม่ได้สวยงามจริงๆต่างหาก โลกมันจึงต้องพี่งพาวัคซีน และนี่คือตรรกะที่เป็นความจริงที่สุดคือ ‘เราต้องกำจัดโรคบ้าบอนี่ให้ไวที่สุด เพราะมันไม่สวยงามตามที่กลุ่มคนโลกสวยช่วยบิดเบือนมัน’

7) ถ้า VDO นี้ควรพัฒนา communication อย่างไร?

ขอแนะนำเป็น คุณมินท์วางหมากของ script ใหม่ จากคำว่า “ข้อดี เป็น #สิ่งเดียวที่ตนได้เรียนรู้ จาก COVID หรือ #โควิดให้บทเรียนอะไรกับมินท์ ” บอยว่ามันจะโคตรสง่างาม และสร้างมุมมองทางความคิด แต่พอเลือกใช้คำว่า #ข้อดี ซึ่งมันไม่น่าจะพาไปหา benefits ท่ามกลางวิกฤติของสังคม มันก็อาจจะสร้างความอ่อนไหวต่อความรู้สึกคนฟังอย่างมาก ‘การสรรคำผิด…ชีวิตเปลี่ยน’ จริงๆนะ

8 ) ข้อดีข้อเดียวของโควิด มุมมองของบอยมีนะ นั่นก็คือ “ทำให้คนตาสว่าง และเห็นว่ารัฐบาลนี้มันเหี้ย ทำงานแย่ เป็นรัฐบาลอัปรีย์ ต้องขับไล่” นี่คือข้อเดียวของบอย กูจะขอบคุณโควิดแค่เรื่องนี้เท่านั้น เรื่องอื่น กูเกลียดมึง

อ่านโพสต์ต้นฉบับได้ที่ลิ้งก์นี้

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน