เชียงใหม่เจอโควิดเพิ่ม 5 ราย เฝ้าระวังอีก 15 คลัสเตอร์ เผยมี 6 คลัสเตอร์ปลอดภัยแล้ว เผยรายละเอียดดับ 3 ศพ 2 ราย อยู่ในเรือนจำ

วันที่ 27 พ.ค.64 ที่ศูนย์บัญชาการสถานการณ์การระบาดโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ นายกนก ศรีวิชัยนันท์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และ นพ.วรเชษฐ์ เต๋ชะรัก ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพิงค์ ร่วมกันแถลงสถานการณ์การระบาดของโรค Covid-19 ระลอกเดือนเมษายนจังหวัดเชียงใหม่ประจำวัน

ดร.ทรงยศ เปิดเผยว่า วันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 4,076 ราย รักษาหายแล้ว 3,828 ราย รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 224 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มจากเมื่อวานนี้ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมของเชียงใหม่อยู่ที่ 23 ราย ส่วนการตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงเมื่อวานนี้ (26 พ.ค.) จำนวน 608 ราย พบผู้มีผลบวกร้อยละ 1.32 ซึ่งสอดคล้องกับยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ลดลง ด้านปัจจัยเสี่ยงพบว่าสาเหตุหลักยังคงเป็นการสัมผัสในครอบครัวและการสัมผัสในสถานที่ทำงาน และยังคงมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น ขณะที่การสัมผัสในชุมชนและการนำเข้ามาจากต่างพื้นที่ก็เริ่มพบมากขึ้นเช่นกัน โดยผู้ติดเชื้อที่พบในวันนี้มีบางรายไปซื้อหรือขายของที่ตลาด 4 มุมเมือง แล้วกลับเข้ามาในพื้นที่ และมีอีก 1 รายที่ติดจากการไปรับประทานหมูกระทะร่วมกับผู้ติดเชื้อ ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าการที่ประชาชนไม่ให้ความร่วมมืออยู่บ้านหยุดเชื้อ ไม่รักษามาตรการป้องกันโรคอย่างจริงจัง จังหวัดเชียงใหม่ก็จะยังพบผู้ติดเชื้อและไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้

สำหรับการตรวจคัดกรองเชิงรุกพื้นที่เสี่ยง วันนี้ทีมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้ลงพื้นที่คัดกรองที่แคมป์คนงานต่างด้าว ต.แม่เหียะ โดยเป็นการดำเนินงานร่วมกับทีมปกครองของอำเภอ เทศบาลเมืองแม่เหียะ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลบ้านท่าข้าม แม่เหียะ โดยมีการตรวจหลักฐานบัตรประจำตัว สถานที่พัก ให้ความรู้และใช้รถนำเที่ยวรับไปตรวจคัดกรอง ณ จุดตรวจคัดกรองวัดต้นปิน โดยตรวจทั้งหมด 95 ราย ส่วนการตรวจกลุ่มพนักงานขับรถขนส่งสินค้าได้ตรวจไปแล้ว 192 ราย พบผู้มีผลบวก 5 ราย เป็นคลัสเตอร์บริษัทขนส่งสินค้าที่ อ.สารภีเดิม ทั้งนี้ขอประกาศเพิ่มเติมให้รถที่รับสินค้าจาก อ.แม่สาย จ.เชียงราย เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทุก 7 วัน ตามประกาศของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ เนื่องจากพบว่ายังคงมีการระบาดในพื้นที่อำเภอแม่สาย

ส่วนคลัสเตอร์วันนี้ มีคลัสเตอร์ที่ปลอดภัยแล้ว 6 คลัสเตอร์ คือคณะเภสัชศาสตร์ วิทยาลัยพายัพเทคโนโลยี บริษัทขายตรง ลานธรรมนำสุข โครงการหลวง ศูนย์เด็กเล็กแม่คือ และบ้านขุนบ่อหลวง อ.ฮอด อย่างไรก็ตามยังคงมีคลัสเตอร์เฝ้าระวังต่อเนื่อง 12 คลัสเตอร์ และคลัสเตอร์ที่ต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด 3 คลัสเตอร์ คือ คลัสเตอร์บ้านขุนแปะ ข่วงเปา คลัสเตอร์ขายของออนไลน์สันนาเม็ง และบริษัทขนส่งสารภี

สำหรับยอดการจองวัคซีนของเชียงใหม่ขณะนี้อยู่ที่ 180,256 ราย และขอให้ความมั่นใจว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 นั้นปลอดภัย พร้อมเชิญชวนคนเชียงใหม่ร่วมใจกันฉีดวัคซีนให้มากกว่าร้อยละ 70 เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ และเดินหน้าด้านการท่องเที่ยวต่อไปได้ ทั้งนี้ยืนยันว่ามีจำนวนวัคซีนที่เพียงพออย่างแน่นอน

นพ.วรเชษฐ์ ชี้แจงรายละเอียดของผู้เสียชีวิต 3 รายล่าสุดเมื่อวานนี้ (26 พ.ค.) ว่าผู้เสียชีวิตรายที่ 21 ของ จ.เชียงใหม่ เป็นชายไทย อายุ 52 ปี มีโรคประจำตัวความดันโลหิตสูง เบาหวาน และไตวายเรื้อรัง อยู่ในพื้นที่เสี่ยงระบาด (เรือนจำ) โดยวันที่ 9 พ.ค. มีอาการอ่อนเพลีย ถ่ายเหลว หายใจเหนื่อยหอบ และตรวจพบเชื้อโควิด-19 วันที่ 10 พ.ค. มีอาการเหนื่อยมากขึ้น จึงถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่ ร.พ.นครพิงค์ วันที่ 23 พ.ค. อาการแย่ลง ระบบหายใจล้มเหลว ความดันต่ำ กระทั่งเสียชีวิตลงในวันที่ 25 พ.ค.เวลา 05.40 น.

ผู้เสียชีวิตรายที่ 22 ของ จ.เชียงใหม่ เป็นชายไทย อายุ 47 ปี มีโรคประจำตัวความดันโลหิตสูง และโรคอ้วน มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ตรวจพบเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ที่โรงพยาบาลชุมชน และเข้ารับการรักษาตัวที่ ร.พ.นครพิงค์ วันที่ 8 พ.ค. พบการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อน ระบบหายใจล้มเหลว และได้รับการรักษาด้วยเครื่องปอด, หัวใจเทียม (ECMO) แต่อาการยังไม่ดีขึ้น และระบบหายใจล้มเหลว กระทั่งเสียชีวิตลงในวันที่ 25 พ.ค. เวลา 11.17 น.

ผู้เสียชีวิตรายที่ 23 ของ จ.เชียงใหม่ เป็นชายไทย อายุ 62 ปี มีโรคประจำตัวเป็นโรคซีด อยู่ในพื้นที่เสี่ยงระบาด (เรือนจำ) ตรวจพบเชื้อโควิด-19 ในวันที่ 3 พ.ค. และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสนามเรือนจำกลางเชียงใหม่ วันที่ 11 พ.ค. มีอาการเหนื่อยหอบมาก จึงถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่ ร.พ.นครพิงค์ วันที่ 23 พ.ค. พบติดเชื้อในกระแสเลือด และวันที่ 25 พ.ค. พบอวัยวะภายในล้มเหลวหลายส่วน กระทั่งเสียชีวิตลงในเวลา 12.48 น.

นายกนก ชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติสำหรับผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดเข้ามาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ตามคำสั่งที่ 61/2564 ว่าได้มีการเพิ่มการแบ่งกลุ่มผู้ที่เดินทางเข้าจังหวัดเชียงใหม่ออกเป็น 6 กลุ่ม โดยเพิ่มกลุ่มที่ 6 คือกลุ่มพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ/ขนส่งสินค้า และปรับเพิ่มเติมในกลุ่มที่ 1 เป็นผู้ที่เดินทางกลับภูมิลำเนา หรือย้ายมาปฏิบัติราชการ/ปฏิบัติงานในจังหวัดเชียงใหม่เป็นการประจำ โดยทั้ง 6 กลุ่มมีแนวทางการปฏิบัติตนที่คล้ายกันคือต้องสแกน CM-CHANA การรายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคในพื้นที่ การกักตนเองอยู่ในบ้านพัก การสังเกตอาการตนเอง กรณีผู้ใดที่รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว ให้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่พนักงานควบคุมโรคในพื้นที่เพื่อขอรับสิทธิผ่อนผันในการปฏิบัติ

สำหรับการปฏิบัติตนของกลุ่มพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ รถขนส่งสินค้าทางการเกษตร และผู้ขับรถขนส่งสินค้าประเภทอาหารทะเลหรือผลไม้ ที่มีการเดินทางเข้า-ออกจังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ขอให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทุก 7 วัน ที่โรงพยาบาลของรัฐ โรงพยาบาลเอกชน หรือจุดตรวจเฉพาะกิจของกระทรวงสาธารณสุข หรือศูนย์วัณโรคเขต 10 เชียงใหม่ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจนกว่าจะไม่มีการแพร่ระบาด พร้อมขอให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคล D-M-H-T-T-A อย่างเคร่งครัด และแสดงเอกสารผลการตรวจโควิด-19 ต่อเจ้าพนักงานที่ทำการตรวจสอบ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน