ผู้ว่าฯโคราชทิ้งทวน เซ็นหนังสือ 2 ฉบับจองวัคซีน ซิโนฟาร์ม 1 แสนโดส จากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ก่อนอำลาตำแหน่ง ขอมหาดไทยปลดล็อก ให้ใช้เงิน อปท.ได้
เมื่อวันที่ 31 พ.ค.64 นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ลงนามในหนังสือ เรื่อง การสั่งจองวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ถึงเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เป็นหนังสือทิ้งทวน 2 ฉบับ
ฉบับแรก ลงวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 มีเนื้อหาใจความว่า ด้วยทราบว่า าชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ผสานความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในการจัดหาวัคซีนทางเลือกเพิ่มเติม เพื่อช่วยให้ประชาชนเข้าถึงและได้รับวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ได้เร็วที่สุด
รวมทั้งเป็นการควบคุมและยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและกระจายวัคซีนในสถานการณ์ฉุกเฉินให้เป็นไปอย่างทั่วถึง ทั้งภาครัฐภาคเอกชนที่มีความประสงค์ที่จะจัดซื้อวัคซีนเพื่อนำไปฉีดให้กับประชาชนหรือบุคลากรในหน่วยงาน
จ.นครราชสีมาได้หารือร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา มีความยินดีให้การสนับสนุนและให้ความร่วมมือจังหวัดนครราชสีมาในการจัดหาวัคซีนมาให้กับประชาชนชาว จ.นครราชสีมา ให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่เพื่อสร้างความเชื่อมั่นรวมทั้งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของจังหวัดฯ และของประเทศไทย ตลอดจนสร้างมาตรฐานความปลอดภัยและเพิ่มขีดความสามารถที่จะช่วยเหลือให้ประชาชนทุกระดับได้กับมาดำเนินชีวิต เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไป
ดังนั้น จึงใคร่ขอจองวัคซีนจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จำนวน 100,000 โดส และพร้อมปฏิบัติตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ทุกประการ ทั้งนี้ เพื่อความชัดเจนในกรณีอำนาจหน้าที่ในการจัดการจัดซื้อวัคซีนดังกล่าว จ.นครราชสีมา ได้เร่งหารือเรื่องดังกล่าวไปยังกระทรวงมหาดไทยอีกทางหนึ่งด้วยแล้ว ผลการพิจารณาเป็นประการใด ขอความกรุณาแจ้งให้ จ.นครราชสีมาทราบด้วย
นอกจากนี้ ยังมีหนังสือเรื่อง หารือกรณีการจัดหาวัคซีนเพื่อให้บริการประชาชนถึง อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ระบุ ตามที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เป็นตัวแทนรัฐบาลไทยในการนำเข้าวัคซีน “ซิโนฟาร์ม” ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้พิจารณาอนุมัติการขอขึ้นทะเบียนวัคซีนดังกล่าว โดยเป็นตัวแทนรัฐบาลไทยในการจัดหาและนำเข้าวัคซีนทางเลือกเพิ่มเติม เพื่อช่วยให้ประชาชนเข้าถึงและได้รับวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันได้เร็วที่สุดนั้น
เนื่องจากโรคโควิดได้แพร่ระบาดในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ส่งผลให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก ซึ่ง จ.นครราชสีมา มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 2,692,889 คน มีเป้าหมายในการฉีดวัคซีนให้ได้ร้อยละ 70 ของประชากรในพื้นที่ คิดเป็นจำนวนประชากร 1,885,023 คน แต่ปัจจุบันสามารฉีดวัคซีนให้กับประชาขนได้เพียง 89,290 คน คิดเป็นร้อยละ 4.74 ของประชากรในพื้นที่และยังไม่สามารถระบุได้ว่า จ.นครราชสีมา จะได้รับการจัดสรรวัคซีนเพิ่มเติมอีกจำนวนเท่าใด
ในขณะที่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดฯ มีความต้องการฉีดวัคซีนจำนวนมาก ซึ่งเป็นการกดดันต่อการทำงานของจังหวัดฯ ประกอบกับ จ.นครราชสีมา มีเป้าหมายที่จะเปิดจังหวัดในห้วงเดือนสิงหาคม -กันยายน 2564 ซึ่งจังหวัดฯ จะมีการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลสโมสรชายและสโมสรหญิง ชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย 2021
และในเดือนธันวาคม 2564 จ.นครราชสีมา เป็นเจ้าภาพในการจัดงานศิลปะนานาชาติระดับโลก ครั้งที่ 2 (Thailand Biennale, Korat 2021) ซึ่งจะมีนักกีฬา ศิลปินและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมาในจังหวัดฯ เป็นจำนวนมาก จึงมีความจำเป็นต้องจัดเตรียมความพร้อมเรื่องวัคซีน เพื่อให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อโควิด เป็นไปในทางที่ดีขึ้น
นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่าองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา พร้อมที่จะใช้เงินสะสมของ อบจ.ซื้อวัคซีนซิโนฟาร์ม จากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จำนวน 100,000 โดส ตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ประสานเข้ามา เพื่อนำมาฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่ฟรี แต่ทั้งนี้ต้องรอให้กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ปลดล็อกกฎระเบียบต่างๆ เพื่อให้ อปท.สามารถดำเนินการได้โดยไม่ผิดกฎหมาย
ที่ผ่านมา อบจ.นครราชสีมา ให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง เพราะถือเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็ว เพื่อให้พี่น้องชาวโคราชมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตามนโยบายของ อบจ.และหลังจากนายวิเชียร จันทรโณทัย ย้ายออกไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิแล้ว ตนก็พร้อมที่จะทำงานร่วมกับนายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาคนใหม่อย่างเต็มที่