กรมควบคุมโรค สรุปผลหญิง 29 ปี เลือดออกในสมองหลังรับวัคซีนโควิด 2 วัน ชี้ไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน เป็นเหตุบังเอิญร่วม มักเป็นแต่กำเนิด

วันที่ 3 มิ.ย.2564 นพ.ทวีทรัพย์ ศิรประภาศิริ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีหญิงอายุ 29 ปี จ.นครราชสีมา มีอาการเลือดออกในสมอง มีประวัติฉีดวัคซีนโควิด 19 เมื่อ 2 วันก่อนเกิดอาการ รักษาที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา ว่า คณะผู้เชี่ยวชาญเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ภายหลังการได้รับวัคซีน (AEFI) ที่มี ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เป็นประธาน และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหลอดเลือดสมอง

ได้พิจารณากรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. จากรายงานการสอบสวนโรคและภาพถ่ายเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองจาก รพ.มหาราชนครราชสีมา พบว่าผู้ป่วยรายดังกล่าวมีภาวะผิดปกติที่มีกลุ่มหลอดเลือดแดงต่อกับหลอดเลือดดำในสมอง (Arteriovenous malformation) ซึ่งเป็นภาวะผิดปกติมาแต่กำเนิด

เคสหญิงโคราช

นพ.ทวีทรัพย์ กล่าวต่อว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะไม่แสดงอาการ มักมาพบแพทย์และตรวจพบเมื่อหลอดเลือดผิดปกติเหล่านี้แตก ซึ่งอาการจะขึ้นกับตำแหน่งที่มีการแตกของหลอดเลือดในสมอง หรืออาจมี ชัก ปวดศีรษะร่วมด้วยได้ ในคนทั่วไปพบภาวะนี้ได้ประมาณ 10-18 รายต่อประชากรแสนคน และบุคคลที่มีความผิดปกติดังกล่าว มีโอกาสที่จะเกิดเลือดออกในสมองได้ประมาณร้อยละ 2-4 ต่อปี ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการพิการ หรือเสียชีวิตในผู้ป่วยกลุ่มนี้

ผู้ป่วยรายนี้ จากผลการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง พบภาวะเลือดออกในสมอง และตรวจพบความผิดปกติที่กลุ่มหลอดเลือดแดงต่อกับหลอดเลือดดำที่สมอง ซึ่งมักเป็นภาวะผิดปกติแต่กำเนิด ความเห็นของคณะผู้เชี่ยวชาญ จึงสรุปว่า สาเหตุของการเกิดอาการดังกล่าวเป็นจากรอยโรคเดิมที่เป็นอยู่ ทำให้มีเลือดออกในสมอง และไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน หรือการฉีดวัคซีน แต่เป็นเหตุการณ์ร่วมที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญภายหลังการได้รับวัคซีน (Coincidental event)” นพ.ทวีทรัพย์กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน