สปสช.เร่งเยียวยาหญิงวัย 46 ดับหลังฉีดวัคซีน เผยตอนนี้จ่ายเงินเยียวยาไปแล้วทั่วประเทศ 262 ราย เป็นกรณีเสียชีวิต 5 ราย

ครอบครัวหญิงวัย 46 ปี ที่เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนโควิด 19 ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ประสานช่วยเหลือ เพื่อนำเข้าคณะอนุกรรมการพิจารณาก่อนจ่ายเงินเยียวยาโดยไม่พิสูจน์ถูกผิด กรณีเสียชีวิต ทุพพลภาพจ่าย 4 แสน เผยตอนนี้จ่ายเงินเยียวยาไปแล้วทั่วประเทศ 262 ราย เป็นกรณีเสียชีวิต 5 ราย

วันที่ 9 มิ.ย.64 นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงกรณีหญิงอายุ 46 ปี เสียชีวิตภายหลังการฉีดวัคซีนโควิด 19 ของแอสตราเซเนกาว่า ทันทีเมื่อทราบข่าวการเสียชีวิต ได้ส่งเจ้าหน้าที่จากสปสช. เขต 13 ลงไปในพื้นที่ เพื่อติดตามประสานงาน ในเรื่องการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้น ซึ่งตามหลักเกณฑ์ของสปสช.แล้ว เมื่อมีผู้ได้รับความเสียหายหลังจากฉีดวัคซีน ไม่ว่าจะเป็นอาการเล็กน้อยไปจนกระทั่งกรณีเสียชีวิต สปสช.จะพิจารณาจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้ก่อน

ซึ่งคำว่าเบื้องต้นนี้ ไม่ได้หมายถึงการพิสูจน์ถูกผิดว่าเกิดจากวัคซีนหรือไม่ แต่เป็นการบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ประชาชน โดยเมื่อใดที่ฉีดวัคซีนแล้วเกิดผลกระทบก็จะพิจารณาจ่ายให้โดยเร็วที่สุด แม้ว่าต่อมาในภายหลังจะพิสูจน์ว่าสาเหตุของผลกระทบไม่ได้เกิดจากวัคซีน ก็จะไม่มีการเรียกเงินคืน

“ในกรณีของผู้เสียชีวิตรายนี้ ปกติใช้สิทธิรักษาพยาบาลของสวัสดิการข้าราชการ ในกรณีของการเยียวยาผลกระทบหลังฉีดวัคซีน สปสช.ซึ่งดูแลผู้ใช้สิทธิบัตรทอง จะดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาให้แก่ประชาชนทุกสิทธิ ทั้งสวัสดิการข้าราชการ ประกันสังคม ไม่จำกัดว่าจะดูแลแต่สิทธิบัตรทองเพียงอย่างเดียว”นพ.จเด็จ กล่าว

หลักเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นจะแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ มีอาการป่วยต้องรักษาต่อเนื่อง จ่ายไม่เกิน 1 แสนบาท เกิดความเสียหายถึงขั้นสูญเสียอวัยวะหรือพิการจนมีผลต่อการดำรงชีวิต จ่ายไม่เกิน 2.4 แสนบาท และกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร จ่ายไม่เกิน 4 แสนบาท

ซึ่งผู้ได้รับผลกระทบหลังฉีดวัคซีนสามารถยื่นเรื่องได้ 3 จุด คือที่โรงพยาบาลที่ไปรับการฉีด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และ สปสช. เขตต่างๆ 13 เขตทั่วประเทศ โดยแต่ละเขตจะมีคณะอนุกรรมการพิจารณาวินิจฉัยคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้น ทำการพิจารณาคำร้องให้แล้วเสร็จภายใน 5 วัน ซึ่ง ณ วันที่ 7 มิ.ย. 2564 มีผู้ยื่นเรื่องเข้ามาแล้ว 386 ราย จ่ายเยียวยาแล้ว 262 ราย โดยกรณีเสียชีวิตจ่ายเยียวยาไปแล้ว 5 ราย ยังไม่รวมกรณีของหญิงวัย 46 ปีที่เพิ่งเสียชีวิต

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน