ศบค.เตรียมปรับเพิ่มมาตรการกลุ่มกิจการที่ยังคุมโควิดไม่ได้ โดยเฉพาะแคมป์ก่อสร้าง ดึงทหารตำรวจช่วยควบคุม หลังยังพบตั้งวง ลอบออกมาซื้อของนอกแคมป์

เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.64 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) กล่าวว่า การหารือของ ศบค.ชุดเล็กนอกจากติดตามกักกันผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอย่างเคร่งครัด กรมควบคุมโรคเสนอให้จังหวัดกำหนดมาตรการเข้มข้น เช่น พบผู้ติดเชื้อ 1 ราย สอบสวนพบผู้ใกล้ชิดเป็นใครอยู่ที่ไหนในครอบครัวอย่างไร ระหว่างผู้สัมผัสเสี่ยงสูงยังไม่ยืนยันเป็นผู้ติดเชื้อ เราให้คำแนะนำให้กักตัวก่อนเพื่อไม่ให้เป็นผู้ติดเชื้อและแพร่โรค

ปรากฏว่าหลายคนทำไม่ได้ เพราะอยู่อย่างแออัด ขอให้จังหวัดหาสถานที่กักของังหวัด เพื่อควบคุมอยู่ในวงจำกัดได้ และเฝ้าระวังการเดินทางข้ามพื้นที่ อสม.ที่ไปดูแลคนเดินทางข้ามจังหวัดขอให้เดินหน้าต่อ อย่างชลบุรีไปเชียงราย หรือกทม.ไปพิษณุโลก ทำให้พิษณุโลกปิดโรงเรียนไป ตอนนี้ยอดติดเชื้อไม่ลดลง

“เห็นใจผู้ว่าฯ ดูแลภาพรวมไม่ไหว ขอให้ระดับพื้นที่อำเภอ ตำบล ขอความร่วมมือช่วยเหลือให้โรงงานเข้าสู่มาตรฐานและคุมการระบาดให้ได้โดยเร็ว ช่วยร่วมมือกันดูทุกภาคส่วนของหน่วยงานราชการ และภาคเอกชนบางจังหวัดมีความร่วมมือสภาอุตสาหกรรม สภาหอการค้า ขอให้ร่วมมือกัน บางจังหวัดทำได้ดี แต่ถ้าทำไม่ได้ พรุ่งนี้มีการพิจารณาปรับมาตรการ บางพื้นที่ต้องเข้มข้นขึ้น เช่น แคมป์คนงาน กทม. การสอบสวนทั้ง 50 เขต อยู่ที่ 575 แคมป์ คนงานอยู่ที่ 79,620 คน จำนวนนี้ คนไทย 33,432 คน ต่างชาติ 46,188 คน ที่ผ่านมา ผอ.เขตลงพื้นที่เจรจาให้แต่ละแคมป์ศึกษามาตรการให้ความร่วมมือ ทำไม่ได้ก็จะเพิ่มความเข้มข้นมาตรการ โดยขอความร่วมมือมหาดไทย ส่งกำลังทหารตำรวจเข้าควบคุมกำกับดูแลแคมป์คนงานทั้งหมด” พญ.อภิสมัย กล่าว

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ขอบคุณประชาชน ศบค.รับทราบการจัดการที่โรงงานหรือแคมป์ทำผิดมาตรการจากการเป็นหูเป็นตาของประชาชนในพื้นที่ เช่น ตั้งวงกินเหล้า นครศรีธรรมราชมีการตั้งวงไพ่ หรือแคมป์ที่ถูกปิดคนงานยังออกมาซื้อของในตลาด ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงและส่งเสียง ที่พัก ตลาด ชุมชน โรงงาน ยังมีความเชื่อมโยง ใครคนหนึ่งไม่สามารถปลอดภัยได้ถ้าไม่ควบคุมการระบาดในทุกวง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน