ศบค.จัดสรรวัคซีนเดือนก.ค. กทม.ได้ 5 ล้านโดส กระจายลดหลั่น 3 พื้นที่ กลุ่มจองหมอพร้อมต้องได้ฉีดก่อน ผุดแผนอาจต้องมีเข็ม 3 หรือเข็ม 1 กับ 2 ฉีดสลับยี่ห้อกัน

ศบค.เห็นชอบแผนจัดสรรวัคซีนโควิด 19 เดือนก.ค. 10 ล้านโดส ย้ำกลุ่มจองผ่านหมอพร้อมต้องได้ก่อน กทม.ต้องได้อย่างน้อย 5 ล้านโดส แบ่งจัดสรร 3 พื้นที่ โดย 4 จังหวัดสีแดงเข้มและภูเก็ตได้ 30% ควบคุมสูงสุด ชายแดน 23 จังหวัด 25% และ 49 จังหวัดที่เหลือ 35% สำรองไว้เมื่อระบาด 10% พร้อมไฟเขียวจัดหาวัคซีนให้ได้ 150 ล้านโดส ซื้อซิโนแวคเพิ่ม 28 ล้านโดส วัคซีนอื่น 22 ล้านโดส

วันที่ 18 มิ.ย.64 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค.พิจารณาแผนการให้บริการวัคซีนโควิด โดยปลัดกระทรวงสาธารณสุขนำเสนอ 2 เรื่อง คือ การจัดสรรวัคซีนให้แต่ละจังหวัดเดือนก.ค. เป้าหมายฉีดวัคซีน 10 ล้านโดส จึงขอใช้เกณฑ์การจัดสรร โดยให้ผู้จองวัคซีนล่วงหน้าในระบบหมอพร้อม ในกลุ่มผู้สูงอายุและ 7 กลุ่มโรคเรื้อรังก่อน พิจารณาให้ กทม.ได้รับการจัดสรรวัคซีนอย่างน้อย 5 ล้านโดสในเดือนก.ค. และพิจารณาให้ภูเก็ตรับวัคซีนเข็มที่ 2 อย่างน้อยร้อยละ 70 ภายในเดือนก.ค.

สำหรับเกณฑ์จำนวนที่จะจัดสรร แบ่งเป็นพื้นที่ลดหลั่นกันลงไป

1.พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 4 จังหวัด คือ กทม. ปทุมธานี นนทบุรี และสมุทรปราการ และจังหวัดที่เปิดการท่องเที่ยว คือ ภูเก็ต รวม 5 จังหวัด ได้ร้อยละ 30 โดย กทม. (รวม ทปอ.และประสังคม) 2.5 ล้านโดส นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ รวม 6 แสนโดส และภูเก็ต 2 แสนโดส

2.มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุด มีความเร่งด่วนในการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ภายหลังการระบาด 23 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ตาก หนองคาย สระแก้ว ระนอง นราธิวาส ยะลา ปัตตานี สงขลา ตรัง ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี นครปฐม พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี บุรีรัมย์ สุราษฎร์ธานี (อ.เกาะสมุย) พังงา และกระบี่ ได้ร้อยละ 25 รวม 2.5 ล้านโดส

3.จังหวัดที่เหลือ 49 จังหวัด จะได้ลดหลั่นกันลงมาได้ 35% หรือ 3.5 ล้านโดส เฉลี่ยจังหวัดละ 7 หมื่นโดส และกันไว้ส่วนกลาง องค์กรภาครัฐ และสำรองตอบโต้การระบาด 10% หรือ 1 ล้านโดส ทั้งหมดขึ้นกับการส่งมอบวัคซีนของผู้ผลิต และเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ ซึ่งทั้งหมดที่ประชุมเห็นชอบ

สำหรับการจัดหาวัคซีน จะสรรหา 150 ล้านโดสในปี 2565 ครอบคลุมและเพิ่มกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรค หรือกรณีอื่นใดที่ต้องรใช้วัคซีนเพิ่มเติม ขณะนี้มีการเจรจาจัดหาดำเนินการจองแล้ว 105.5 ล้านโดส คือ แอสตร้าเซนเนก้า 61 ล้านโดส ซิโนแวค 19.5 ล้านโดส ไฟเซอร์ 20 ล้านโดส และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน 5 ล้านโดส ดังนั้น ต้องหางบประมาณเพิ่มขึ้นเพื่อจัดหาวัคซีนเพิ่มขึ้น เป็นซิโนแวค 28 ล้านโดส และวัคซีนอื่นๆ 22 ล้านโดส ทั้งนี้ ขึ้นกับผลการศึกษาประสิทธิภาพของวัคซีน และสถานการณ์ของเชื้อกลายพันธุ์ด้วย

“บางทีอาจต้องมีเข็ม 3 หรือเข็ม 1 กับเข็ม 2 สลับกัน การสู้กับเชื้อสายพันธุ์กลายพันธุ์ใหม่ๆ จึงต้องขยายเพดานออกมามากขึ้น เกณฑ์การจัดสรรและการจัดหาก็ได้รับการพิจารณา” นพ.ทวีศิลป์กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน