5 สมาคม แนะรัฐบาล คิดจะล็อกดาวน์ ต้องมีแผนเยียวยาประชาชนด้วย เสนอให้ความสำคัญกับผลกระทบเศรษฐกิจทุกระดับ พร้อมเสนอทางออก 3 ข้อ

25 มิ.ย. 2564 – ทาง ​5 สมาคมประกอบด้วย คณะกรรมการค้าปลีกและบริการ หอการค้าไทย, สมาพันธ์ SME ไทย, สมาคมผู้ค้าปลีกไทย, สมาคมศูนย์การค้าไทย และสมาคมภัตตาคารไทย ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกัน

โดยระบุว่า มีความตระหนักถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงมีแนวคิดและข้อเสนอแนะ การล็อกดาวน์เพียงอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ จำเป็นต้องมีแผนปฎิบัติการเชิงรุกร่วมด้วย รวมถึงมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการ SME ที่ได้รับผลกระทบ เช่นช่วยค่าน้ำค่าไฟเป็นเวลา 3 เดือน ช่วยจ่ายค่าแรงงานที่ต้องว่างงาน ชดเชยรายได้ที่หายไป เป็นต้น

ดังนั้นหากมีความจำเป็นต้องล็อกดาวน์กรุงเทพและปริมณฑล ต้องให้ความสำคัญกับผลกระทบของระบบเศรษฐกิจทุกระดับและการจ้างงาน ทั้ง 5 สมาคม จึงขอนำเสนอแนวทางในการล็อกดาวน์เป็น 3 ระดับดังนี้

1. ล็อกดาวน์เป็นช่วงเวลา โดยกำหนดการเปิด-ปิดธุรกิจเหมือนช่วงหลังสงกรานต์ปี 2564 ที่ผ่านมา พร้อมเร่งแผนการนำเข้า และฉีดวัคซีนให้ทั่วถึงและเร็วที่สุด และมีมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการ SME ที่ได้รับผลกระทบ

2. ล็อกดาวน์เป็นบางคลัสเตอร์ หรือบางจุดในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดอย่างหนัก โดยจำกัดการเคลื่อนย้ายประชาชนในพื้นที่ และเร่งฉีดวัคซีนในคลัสเตอร์ให้ครบ 100% พร้อมทั้งให้การช่วยเหลือเรื่องสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน และมีมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการในคลัสเตอร์นั้น ๆ

3. ล็อกดาวน์เฉพาะพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล โดยงดการเคลื่อนย้ายข้ามพื้นที่และปูพรมการฉีดวัคซีนให้ทั่วถึงโดยเร็วที่สุด โดยไม่จำเป็นต้องล็อกดาวน์ถึง 14 วัน ถ้าสามารถเร่งการฉีดวัคซีนในกรุงเทพและปริมณฑลได้ 100% และยังคงต้องมีมาตรการเยียวผู้ประกอบการด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน