ตร.เตือนภัย มิจฉาชีพ หลอกขายวัคซีนทางเลือก ซิโนฟาร์ม โผล่ตุ๋นที่อุดรฯ ตกเป็นเหยื่อแล้วกว่า20ราย

เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2564 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์มีการนำเสนอเรื่องเกี่ยวกับกลุ่มผู้เสียหายที่โดนหลอกขายวัคซีนซีโนฟาร์ม ว่า

กรณีดังกล่าวพนักงานสอบสวน สภ เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายรายหนึ่งว่าตนและเพื่อนรวม 20 คน ถูกหลอกขายวัคซีนซิโนฟาร์ม ในราคาเข็มละ1,800บาท โดยอ้างว่าเหลือจากที่ฉีดให้บุคลากรของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จึงตกลงซื้อ

จากนั้นผู้ต้องหาสร้างความเชื่อถือ โดยสร้างกลุ่มไลน์ที่มีบุคคลที่อ้างว่าเป็นแพทย์ เป็นผู้ดูแลกลุ่มและคอยให้ข้อมูลอยู่ตลอด ต่อมาเมื่อถึงวันนัดฉีดวัคซีนในวันที่ 28 มิ.ย. ปรากฏว่ากลุ่มผู้เสียหายไม่มีรายชื่อ จึงตรวจสอบกับทางโรงพยาบาลจนทราบว่าแพทย์คนที่อยู่ในกลุ่มนั้นไมใช่แพทย์ตัวจริง

ผู้เสียหายจึงรู้ว่าตนถูกหลอก จึงมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ทางพนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ไว้แล้ว และจะดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป

จากกรณีดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า แม้จะอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของโรค Covid-19แต่อาชญากรรมทางเทคโนโลยีในรูปแบบของการโกงผ่านสื่อสังคมออนไลน์ก็กำลังแพร่หลายในทุกวันนี้ เนื่องจากเป็นช่วงที่วัคซีนป้องกันโควิด-19 กำลังเป็นที่ต้องการ เหล่ามิจฉาชีพจึงใช้ช่องว่างดังกล่าวในการกระทำความผิด

ซึ่งนอกจากจะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและยังเป็นการช้ำเติมจิตใจของพี่น้องประชาชน

การกระทำลักษณะดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน100,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดฐานฉ้อโกง มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

ซึ่งในฐานความผิดดังกล่าวเป็นความผิดต่อส่วนตัว หากต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี ผู้เสียหายจะต้องมาร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป

ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร มีนโยบายให้ทุกหน่วยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เฝ้าระวัง สืบสวนปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญกรรมทางเทคโนโสยีอย่างเป็นรูปธรรมและเร่งสร้างการรับรู้ให้กับที่น้องประชาชน ให้ทราบถึงพิษภัยและ รูปแบบการกระทำความผิดต่างๆ เพื่อเป็นการจำกัดความเสียหายและตัดโอกาสในการกระทำความผิดที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต

จึงขอฝากประชาสัมพันธ์ถึงแนวทางการป้องกันการถูกหลอกขายวัคซีนโควิด-19 โดยต้องตรวจสอบที่มาที่ไปให้ชัดเจนว่าบุคคลมีอยู่จริงหรือไม่ โดยตรวจสอบกับหน่วยงานนั้นๆโดยตรงอย่าหลงเชื่อแม้ว่าบุคคลที่ชักชวนจะน่าเชื่อถือมากเพียงใดก็ตาม

ถ้าเป็นไปได้ควรลงทะเบียนฉีดวัคซีนกับหน่วยงานของภาครัฐ เนื่องจากมีข้อมูลที่ชัดเจน สามารถตรวจสอบได้ และขอให้พี่น้องประชาชนติดตามข่าวสารอยู่เสมอ เพื่อจะได้รู้ทันกลโกงของเหล่ามืจฉาชีพ

นอกจากนี้หากพบเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งไปยัง Call Center สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน