เผยผลศึกษา ม.ออกซ์ฟอร์ด ฉีดแอสตร้า 1 โดส สร้างภูมิคุ้มกันได้อย่างน้อย 1 ปี เข็ม 3 สามกระตุ้นภูมิ 6 เท่า ป้องกัน ทั้งอัลฟา- เบตา-เดลตา

วันที่ 1 ก.ค.64 บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด เผยแพร่ข้อมูลผลการศึกษาของ มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ฉบับก่อนตีพิมพ์ในวารสาร เดอะ แลนเซต ระบุว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 ของแอสตร้าเซนเนก้า 1 โดส มีผลทำให้ระดับแอนติบอดีในร่างกายเพิ่มสูงขึ้นเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 ปี การเว้นระยะในการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าโดสแรก และโดสที่สองห่างกันนาน 45 สัปดาห์

มีผลกระตุ้นให้ระดับแอนติบอดีในร่างกายเพิ่มขึ้นถึง 18 เท่า ในช่วง 28 วันหลังฉีดเข็มสอง และสูงกว่าการฉีดเว้นห่าง 12 สัปดาห์ ถึง 4 เท่า บ่งชี้ว่าการเว้นระยะห่างระหว่างโดสที่นานขึ้นไม่ก่อให้เกิดผลเชิงลบ แต่ช่วยกระตุ้นระดับภูมิคุ้มกันให้สูงขึ้นได้

นอกจากนี้ การฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเข็มที่สามห่างจากโดสที่สองเป็นระยะเวลา 6 เดือน สามารถกระตุ้นระดับแอนติบอดีให้เพิ่มขึ้นได้ 6 เท่า ส่งเสริมการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดทีเซลล์ในร่างกาย มีศักยภาพสูงขึ้นในการป้องกันสายพันธุ์อัลฟา (B.1.1.7 หรือสายพันธุ์เคนท์), สายพันธุ์เบตา (B.1.351 หรือสายพันธุ์แอฟริกาใต้) และสายพันธุ์เดลตา (B.1.617.2 หรือสายพันธุ์อินเดีย) โดยการฉีดเข็มสองที่เว้นห่างนานขึ้นและเข็มสาม พบเกิดอาการข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ต่ำกว่าการฉีดวัคซีนเข็มแรก

ศาสตราจารย์ เซอร์ แอนดริว เจ พอลลาร์ด หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและผู้อำนวยการกลุ่มวัคซีน (Oxford Vaccine Group) แห่งมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด กล่าวว่า ประเทศที่ยังมีวัคซีนป้องกันโควิด 19 ในปริมาณน้อยและอาจกำลังกังวลต่อความล่าช้าในการจัดหาวัคซีนโดสที่สองสำหรับประชาชนในประเทศ จะมั่นใจและลดความกังวลได้

เพราะเราพบว่าแม้จะเว้นระยะห่างจากโดสแรกนานกว่า 10 เดือน วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าโดสที่สองก็สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน