ไวยาวัจกร วัดราษฎร์ประคองธรรม เผยยอดเผาศพผู้เสียชีวิตโควิดสูงทะลุ 101 รายแล้ว เยอะที่สุดในจ.นนท์ หวั่นเมรุพังต้องใช้พัดลมใหญ่ช่วยเร่งระบายความร้อน
วันที่ 8 ก.ค.2564 ที่วัดราษฎร์ประคองธรรม ต.บางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายไพรัช สุดธูป ไวยาวัจกรวัดราษฎร์ประคองธรรม ว่าเมื่อวานนี้ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิดที่วัดได้ดำเนินฌาปนกิจสงเคราะห์ให้ฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ จำนวน 99 ราย ซึ่งเป็นจำนวนที่วัดได้รายงานกับมหาเถรสมาคมทราบอย่างเป็นทางการ
“ วันนี้วัดราษฎร์ประคองธรรม ได้รับร่างผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิดอีก 2 ราย มาดำเนินการฌาปนกิจต่อ ซึ่งเป็นหญิงอายุ 88 ปี และหญิงอายุ 74 ปี ทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิดที่วัดรับมาดำเนินการฌาปนกิจรวมเป็น 101 ราย นับเป็นตัวเลขที่ทะลุหลักร้อยเป็นวัดแรกของจ.นนทบุรีแล้ว หลังจากวันนี้ยอดรวมผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิดทำสถิตสูงสุดนิวไฮรายวันไปที่ 75 รายเช่นกัน ”
นายไพรัช ระบุต่อว่า นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ที่วัดรับร่างผู้เสียชีวิตมาฌาปนกิจเป็นต้นมา วัดได้ดำเนินการเผาศพผู้เสียชีวิตมาอย่างต่อเนื่องทุกวัน วันละไม่ต่ำกว่า 3 – 4 ศพ มาในระยะหลังเตาเมรุที่ใช้เผาศพเริ่มจะประสบปัญหาบ้างแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่ต้องพักเมรุเพื่อรอระบายความร้อนจะต้องใช้เวลานานมากขึ้น หากไม่มีการพักช่วงระบายความร้อนเพื่อรอให้เมรุเย็นลงแล้วเผาต่อเนื่องต่อไป ก็จะทำให้เกิดความร้อนสะสมจนเตาอาจเกิดระเบิดได้ ทำให้ตอนนี้วัดจำเป็นต้องใช้พัดลมขนาดใหญ่มาช่วยเป่าไล่ความร้อนที่มีสะสมอยู่ ให้เย็นลงก่อนจะการเผาศพต่อไปได้ ช่วยลดขั้นตอนในรวดเร็วขึ้น
” แม้จะหวั่นๆ ว่าเมรุหลักของวัดจะชำรุดลงในสักวัน เนื่องจากวัดเผาศพมาอย่างต่อเนื่องทุกๆวันเป็นระยะเวลา 2 เดือนกว่า แต่เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ประคองธรรมก็สั่งให้ช่วยเหลือฌาปนกิจต่อไปตามปกติ เนื่องจากแต่ละวันจะมีครอบครัวผู้เสียชีวิตติดต่อมารอขอความช่วยเหลือจำนวนมาก แต่วัดก็สามารถช่วยเหลือและรับร่างผู้เสียชีวิตได้วันละ 4 ศพเท่านั้น แต่ละวันกว่าจะเสร็จก็ตี 1 ตี 2 ทุกวัน
หากหยุดรับก็จะส่งผลกระทบกับครอบครัวผู้เสียชีวิตที่รอคอยความช่วยเหลือ ตอนนี้วัดราษฎร์ประคองธรรมก็ช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ แม้ว่าจะต้องเสี่ยงกับเตาเมรุพังสักวันก็ตาม เนื่องจากศพผู้เสียชีวิตเหล่านี้ไม่สามารถพักรอข้ามวันหรือข้ามคืนได้ จำเป็นต้องเร่งดำเนินการเผาในทันทีเพื่อไม่ให้เชื้อแพร่กระจายติดต่อออกไป “
