ปัตตานี สถานการณ์โควิดยังน่าห่วง พบผู้เสียชีวิต 8 วันติด ดับแล้ว41ราย ล็อกดาวน์วันแรก จนท.คุมเข้ม มาจากพื้นที่สีแดงเข้ม 10 จังหวัด กักตัวทันที 14 วัน
วันที่ 12 ก.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศล็อกดาวน์วันแรก ที่ด่านเกาะหม้อแกง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นด่านแรกในของการเข้าออกสู่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทางเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ร่วมกับ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอหนองจิก ได้ตั้งจุดตรวจจุดสกัด ทั้งเส้นทางขาเข้า และขาออกของจังหวัดปัตตานี
เพื่อตรวจสอบผู้ที่เดินทางเข้าออกทุกราย ว่ามีมีเอกสารการรับรองในการเดินทางหรือไม่ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจเอกสาร และบัตรประชาชน พร้อมทั้งสอบถามถึงความจำเป็นในการเดินทาง ซึ่งหากพบว่าไม่มีเอกสาร หรือความจำเป็น ก็จะไม่ยินยอมให้มีการผ่านเข้าออกโดยเด็ดขาด และหากพบว่าผู้ที่เดินทางกลับจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) 10 จังหวัด ก็จะให้มีการตรวจคัดกรอง หาเชื้อ และให้มีการกักตัวทันที่เป็นเวลา 14 วัน
สำหรับบรรยากาศการเดินทางเข้าออกในวันนี้ ยังคงมีประชาชนจำนวนมาก ที่ยังคงเดินทางเข้าออก โดยส่วนใหญ่เป็นข้าราชการที่เดินทางเข้ามาทำงานในพื้นที่ ทำให้ทางเจ้าหน้าที่คงต้องทำงานอย่างละเอียดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ตามคำสั่งของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดปัตตานีอย่างเข้มงวด
พร้อมทั้งยังได้วางกำลังเพิ่มในบังคับใช้กฎหมายในเรื่องของการประกาศใช้เคอร์ฟิวร์ ที่จะมีการบังคับใช้ในคืนนี้เป็นคืนแรก โดยมีการสั่งห้ามไม่ให้บุคคลใดออกจากเคหสถานตั่งแต่เวลา 21.00 น. – 04.00 ของวันรุ่งขึ้น เป็นเวลา 14 วัน ยกเว้นผู้ที่มีเหตุจำเป็นเท่านั้น
ในขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ประจำวันที่ 11 ก.ค.2564 ยังคงพบผู้เสียชีวิตรายใหม่ต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 แล้ว โดยล่าสุด พบผู้เสียชีวิตรายใหม่เพิ่มขึ้นอีก 2 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 41 ราย ในขณะที่ผู้ติดเชื้อรายใหม่ซึ่งยังคงเป็นตัวเลขที่สูงอยู่ คือ 215 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 4,494 ราย
ว่าที่ร.ต.ตระกูล โทธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้ขอให้ประชาชนร่วมทำตามาตรการของทางคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่ออย่างเคร่งครัด เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ให้ได้ พร้อมทั้งช่วยกันป้องกันตัวเอง ในการสอดส่องผู้คนที่มาพบปะ หรือมาพูดคุยกับตัวเองว่า เป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสูงหรือไม่ สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง แม้ว่าจะอยู่ที่บ้าน เพื่อร่วมกันป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้ออย่างจริงจัง
