ศบค. เพิ่ม หญิงตั้งครรภ์ เป็น 1 ในโรคเสี่ยง ต้องได้วัคซีนก่อน ย้ำ ผู้ติดเชื้อกลับรักษาภูมิลำเนา ต้องถามโรงพยาบาลปลายทางก่อน เหตุ โรงพยาบาลต่างจังหวัดก็ล้น

วันที่ 21 ก.ค.2564 ที่ศบค.ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) โดยในช่วงหนึ่งกล่าวถึงการให้ผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 เดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อรักษาตัว ว่า การรายงานผู้ติดเชื้อที่ต่างจังหวัด ซึ่งเมื่อสอบสวนโรคแล้วพบว่าเป็นผู้เดินทางมาจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการขอความร่วมมืออย่างต่อเนื่องกรณีเป็นผู้ไปตรวจหาเชื้อและพบยืนยันว่าเป็นผู้ติดเชื้อ ขอให้เข้าสู่ระบบการรักษาโดยไม่ต้องเคลื่อนย้าย

พญ.อภิสมัย กล่าวต่อว่า เพราะที่สำคัญการเดินทางกลับภูมิลำเนาตอนนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุขรายงานว่าเตียงในต่างจังหวัดเองก็ค่อนข้างเพิ่มปริมาณสูง และมีความตึงตัวพอสมควร ดังนั้น หากต้องการกลับภูมิลำเนาเพื่อไปรักษาจำเป็นต้องมีการติดต่อโรงพยาบาลปลายทางก่อนเสมอ เพราะอาจได้รับการปฏิเสธเนื่องจากจังหวัดปลายทางไม่สามารถรับดูแลได้ในขณะนี้

พญ.อภิสมัย กล่าวอีกว่า และที่สำคัญกรมการแพทย์รายงานว่าผู้ติดเชื้อมากถึง 70-80 เปอร์เซ็นต์ จะเป็นกลุ่มที่ไม่มีอาการ คือ อยู่ระดับสีเขียว ดังนั้นการเดินทางที่อาจเหนื่อยล้าทำให้อาการแย่ลง จึงมีความพยายามขอให้อยู่ที่พื้นที่สีแดงเข้ม กรุงเทพฯและปริมณฑล เพื่อให้ได้รับการดูแลรักษาทั้งแบบแยกกัก ที่บ้านหรือในชุมชน

พญ.อภิสมัย กล่าวด้วยว่า ที่ประชุม ศปก.ศบค. มีการพูดถึงเรื่องการฉีดวัคซีนโดยเพิ่มหญิงตั้งครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ให้ได้รับการฉีดวัคซีนรวมอยู่ใน 7 กลุ่มโรคเสี่ยง ดังนั้นขณะนี้กลุ่มโรคเสี่ยงจึงเพิ่มเป็น 8 โรคแล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน