สธ.ย้ำ ผลตรวจ ATK เป็นบวกรักษาที่บ้านได้ ยังห่วงผลบวกลวง เร่งยกระดับให้ศูนย์พักคอยตรวจ PCR ได้ จ่อเพิ่มเตียงเหลือง แฉขบวนการลอบขนถังออกซิเจนออกชายแดน
วันที่ 27 ก.ค.64 นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ แถลงกรณีการเข้าระบบรักษาเมื่อผลตรวจแอนติเจน เทสต์ คิท เป็นบวก ว่า หากตรวจด้วยชุดตรวจแอนติเจน เทสต์ คิท (ATK) แล้วผลเป็นบวกจะเรียกว่า “ผู้ที่น่าจะติดเชื้อ” เพราะ ATK มีหลายชนิด คุณภาพแตกต่างกัน บางชนิดความไวความจำเพาะอาจไม่ถึง 90% แต่ชุดตรวจที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้การรับรอง กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เอาไปใช้ให้ผล 95% ขึ้นไป ดังนั้น จึงอาจให้ผลบวกลวงประมาณ 3-5% แปลว่าผู้ป่วยจำนวนหนึ่งผลบวกแล้วอาจจะไม่ได้ติดเชื้อจริง ซึ่งเรากังวลตรงนี้ หากนำไปรวมกับผู้ติดเชื้ออาจทำให้ติดเชื้อจริงๆ ได้ ส่วนผลลบแต่สงสัยติดเชื้อต้องตรวจซ้ำในอีก 3-5 วัน เพราะเพิ่งเป็นอาจจะตรวจไม่เจอ
“ถ้า ATK ให้ผลบวกและเข้าเกณฑ์เงื่อนไข สามารถเข้าระบบ Home Isolation ได้เลย ไม่ต้องตรวจ RT-PCR ซ้ำ คือ แยกกักที่บ้านที่ต้องอยู่คนเดียว ใช้ห้องนอนคนเดียว ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับคนในบ้าน แยกกิน แยกอยู่ แยกนอน แยกใช้ห้องน้ำ แยกทิ้งขยะ โดยจะมีสิ่งสนับสนุนโดย สปสช.ให้เงิน รพ. คือ อาหาร 3 มื้อ เครื่องวัดอุณหภูมิ เครื่องวัดออกซิเจนในเลือด และยาที่จำเป็น ถ้าเริ่มมีอาการหรือมีโรคประจำตัว ทางการแพทย์แนะให้เริ่มฟาวิพิราเวียร์ให้เร็วที่สุดก็จะส่งยาให้” นพ.สมศักดิ์ กล่าว
นพ.สมศักดิ์ กล่าวต่อว่า หากอยู่บ้านไม่ได้ ต้องเข้าการแยกกักในชุมชน (Community Isolation : CI) จะให้เซ็นใบยินยอมรับการรักษา และนำตัวไปที่ CI ศูนย์พักคอย ฮอสปิเทล หรือ รพ. โดยให้ตรวจ RT-PCR ซ้ำ เพราะยังมีโอกาสเป็นผลบวกลวง เพื่อป้องกันไม่ให้เอาคนที่ไม่ติดเชื้อเข้าไปอยู่รวมกับผู้ติดเชื้อ การไม่รอผลตรวจก่อนเพราะอาจช้าไปในการรักษา แต่จะเอาเข้ามาเลยและตรวจไปพร้อมกัน แต่พยายามแยกคนที่ ATK บวกแต่ผล PCR ยังไม่มาให้อยู่มุมหนึ่ง เนื่องจากไม่แน่ใจว่าติดเชื้อหรือไม่ ทั้งนี้ สำนักการแพทย์ กทม.พยายามจะเร่งยกระดับให้ศูนย์พักคอยสามารถทำ PCR ได้ทุกแห่ง แต่หากเข้าฮอสปิเทลจะให้เข้าห้องเดี่ยวรอผล PCR ก่อน หากผลออกมาเป็นลบก็ดึงตัวออกมา ถ้าบวกก็รับคนติดเชื้อมาอยู่ร่วมกันได้ ซึ่งทั้งหมดเพื่อความปลอดภัยและความรวดเร็วในการรักษา ย้ำว่า RT-PCR ยังจำเป็นในการเข้าศูนย์พักคอย ฮอสปิเทล และ รพ. แต่อย่าให้ PCR หน่วงเหนี่ยวให้การรักษาล่าช้า
“กทม.ปริมณฑลติดเชื้อมากเกินกว่าระบบรับได้ไป 3 เท่าแล้ว คนหน้างานยินดีทำงานเต็มที่ แต่ขอความเห็นใจว่าล้นเตียงแล้ว อย่าง 2-3 วันที่ผ่านมา ที่แผนกฉุกเฉินปิดหลายที่ เพราะคนไข้ล้นออกไป รับข้างนอกไม่ได้ อย่าง รพ.ราชวิถีบอกว่ามีผู้ป่วยโควิดรออยู่ฉุกเฉิน 10 กว่าเตียง พอข้างบนว่างก็แอทมิดจากข้างล่างขึ้นมา ซึ่งเป็นใน รพ.ทุกสังกัด รวมถึง รพ.เอกชน” นพ.สมศักดิ์ กล่าว
เตียงสีแดงและเหลืองทั้งรัฐและเอกชนเรียกว่าติดลบแล้ว เช่น ได้ 10 เตียงเราใส่ไป 12 เตียง ส่วนเตียงสีเขียวที่ว่างจากการรักษาที่บ้าน เรากำลังรอเครื่องผลิตออกซิเจนเพื่อทำฮอสปิเทลรับคนไข้สีเหลืองให้นอนในฮอสปิเทลได้ ซึ่งเรามีห้องประมาณ 2 หมื่นกว่าห้อง ถ้าแปลงได้ 10% ก็จะมีประมาณ 2 พันเตียง ตอนนี้ยังติดขัดเรื่องถังออกซิเจน ได้ยินว่ามีการลักลอบนำออกไปชายแดนพม่าด้วย
นพ.สมศักดิ์กล่าวว่า สำหรับยาฟาวิพิราเวียร์ ตอนนี้สต๊อกมีเกือบ 10 ล้านเม็ดและทยอยเข้ามา เดือนหน้าจะทยอยเข้ามาทุกสัปดาห์รวม 40 ล้านเม็ด อัตราการใช้ไม่มีปัญหา เดิมมีปัญหาการเบิกยาที่วุ่นวาย เราตัดปัญหาทั้งหมด อย่างที่กรมการแพทย์ทำ รพ.เสมือนจริง (Virtual Hospital) เอาคนไข้ 1668 มาขึ้นทะเบียนดูแลที่บ้าน ใครมีอาการส่งยาฟาวิพิราเวียร์
ซึ่งเราร่วมมือกับประชาสังคม เช่น ต้องรอด เส้นด้าย ฯลฯ ที่ประสานเข้ามาว่าคนไข้เริ่มมีอาการก็จะคุยกับ รพ.เสมือนจริง เราจะจัดยาไปให้ โดยขอแค่ชื่อคนไข้เหมือนมาขึ้นทะเบียนเอาไว้ เราพยายามเอื้อส่วนนี้ให้มากที่สุด โดยการให้ยานั้น ถ้าสบายดีไม่มีโรคร่วม อาจกินยาฟ้าทะลายโจร ยังไม่ต้องใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ ส่วนเมื่อเริ่มมีอาการจะให้ยาฟาวิพิราเวียร์ทันที ส่งไปให้กินที่บ้านได้ หรือโรคประจำตัวแต่ไม่มีอาการให้อยู่ในดุลยพินิจแพทย์ว่าจะให้ยาเลยหรือไม่ เพื่อป้องกันอาการสีเขียวเป็นสีเหลือง
ส่วนกรณีพระและสามเณรโรงเรียนปริยัติธรรมย่านบางนาติดเชื้อกว่า 200 รูปนั้น ผอ.รพ.สงฆ์รายงานว่ามีการจัดทำเป็นที่แยกกักคือ Temple Isolation ซึ่งการแยกกักทั้งหมดเราใช้จุดแข็งคนไทย คือ บ้าน วัด โรงเรียน ซึ่งจริงๆ มีวัดหลายแห่งทำเป็นศูนย์พักคอยที่ดูแลประชาชน วัดแห่งนี้ก็ทำเป็น Temple Isolation ดูแลพระที่นั่น รพ.สงฆ์จัดแพทย์พยาบาลไปร่วมดูแลร่วมกับเด็กวัดและชุมชนตรงนั้น ทั้งวัดไข้ ออกซิเจนในกระแสเลือด ถวายภัตตาหาร และดูอาการ หากรูปใดอาการมากขึ้น ต้องการออกซิเจน จะนิมนต์มาที่ รพ.สงฆ์ หรือหากเรื่มมีอาการก็จะให้ยาทันที
