โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เผย สถานทูตไทยในกรุงวอชิงตัน กำลังติดตามใกล้ชิด หลัง “ลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ” สว.สหรัฐฯ ลูกครึ่งไทย กล่าวในงานสัมมนา หัวข้อโอกาสใหม่สำหรับพันธมิตรสหรัฐ-ไทยในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ระบุ เล็งให้วัคซีนไทย 2.5 ล้านโดส

วันที่ 29 ก.ค.2564 นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยความคืบหน้าการจัดหาวัคซีนของสถานทูตไทยในสหรัฐว่า สถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงวอชิงตันได้ตรวจสอบกรณีวัคซีนของสหรัฐที่คงเหลืออยู่ในคลังเพื่อขอเจรจารับวัคซีนเพิ่มเติมได้นั้น สถานทูตได้ตรวจสอบกับทั้งกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ทำเนียบขาว ได้รับแจ้งว่า ขณะนี้วัคซีนส่วนเกินที่อยู่ในคลังของมลรัฐต่างๆในสหรัฐยังไม่มีมาตรการส่งวัคซีนเพื่อบริจาคหรือขายต่อให้กับประเทศอื่น แต่อย่างไรก็ตามสถานทูตไม่ได้ละความพยายาม

“โดยกำลังอยู่ระหว่างประสานงานกับบุคคลต่างๆ เพื่อย้ำสถานการณ์การแพร่รระบาดในประเทศไทย และขอรับการสนับสนุนการส่งมอบวัคซีนที่หน่วยงานราชการไทยได้สั่งซื้อจากบริษัทต่างๆโดยเร็ว รวมทั้งอยู่ระหว่างติดต่อกับทำเนียบขาว กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ และประสานกับมิตรประเทศที่ใกล้ชิดอื่นๆที่สถานทูตมีความเห็นไปในทางเดียวกัน กระทรวงต่างประเทศได้ขอบคุณชุมชนไทยทั่วสหรัฐที่สนับสนุนสถานทูตในการผลักดันการเข้าถึงวัคซีนที่สหรัฐไม่ได้ใช้”

ส.ว.แทมมี่

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ระบุอีกว่า เมื่อ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา นางแทมมี่ ดักเวิร์ธ วุฒิสมาชิกสหรัฐได้กล่าวในงานสัมมนาหัวข้อ โอกาสใหม่สำหรับพันธมิตรสหรัฐ-ไทยในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ซึ่งสถานทูตไทยในกรุงวอชิงตันได้จัดร่วมกับสถาบันตะวันออก-ตะวันตก สถาบันนานาชาติศึกษา มหาวิทยาลัยรังสิตเกี่ยวกับการบริจาควัคซีน 1.54 ล้านโดสว่า มีเป้าหมายที่จะบริจาควัคซีนต้านโควิด-19 รวมจำนวน 2.5 ล้านโดสให้ไทย โดยยังไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม

” ขณะนี้สถานทูตในกรุงวอชิงตันกำลังติดตามพัฒนาการในเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ส่วนการขนส่งวัคซีนไฟเซอร์ที่สหรัฐมอบให้ไทย จำนวน 1.54 ล้านโดส ซึ่งมีกำหนดเดินทางถึงไทยช่วงเช้าวันที่ 30 ก.ค.นี้ หลังวัคซีนออกจากสหรัฐเมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา “

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน