ย้ำลดออกจากบ้าน แยกผู้ติดเชื้อให้เร็ว หาก 2-4 สัปดาห์นี้กดผู้ติดเชื้อใหม่ได้ เตียงใน รพ.อาจกลับมาเพียงพอ หลังจากเกินลิมิตไปกว่า 5 เท่า ต้องเน้นแยกกักที่บ้าน ชุมชน สปสช. กทม. ทำแล้ว 3 หมื่นกว่าเตียง พร้อมปรับฮอสปิเทล 10-20% รับสีเหลือง ชี้ปรับได้น้อยเพราะยังขาดเครื่องผลิตออกซิเจน บุคลากรน้อย เผยพยาบาลมีเสียชีวิตจากโควิดอีก 1 ราย ที่สมุทรปราการ

วันที่ 29 ก.ค.64 นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า การล็อกดาวน์ครั้งนี้ไม่เหมือนการล็อกดาวน์ เพราะรถยังเยอะมาก อาจต้องลดการออกจากบ้านถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ซึ่งระบบควบคุมโรคเราพยายามช่วยกันอยู่ ถ้าแยกผู้ติดเชื้อออกมาได้เร็วที่สุด ไม่ว่าจะผ่านการแยกกักที่บ้าน (Home Isolation) การแยกกักที่ชุมชน (Community Isolation) ฮอสปิเทล หรือ โรงพยาบาล การแพร่เชื้อจะลดลง ขณะนี้บุคลากรหน้างานยินดีทำงานอย่างเต็มที่ แต่ตอนนี้เจอหลายสภาวะคือผู้ป่วยล้นเตียง ตอนนี้โรงพยาบาลใหญ่ๆไอซียูล้น มี 10 เตียง เข้า 12 เตียง การฉีดวัคซีนจะลดการเสียชีวิตได้ดีที่สุด จึงเชิญชวนมาฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม อัตราการเสียชีวิตจะน้อยลง

“ช่วงนี้การติดเชื้อเข้าสู่ครัวเรือนแล้ว แม้อาศัยร่วมบ้าน แต่คนที่ไม่ได้อยู่บ้านตลอดก็ต้องป้องกันตัวเอง อาจกินข้าวด้วยกันได้ แต่ต้องนั่งให้ห่าง 2 เมตร พูดคุยน้อยที่สุด อย่าอยู่ใกล้ชิดกันช่วงนี้ หากภายใน 2-4 สัปดาห์ ถ้ากดผู้ติดเชื้อได้ดี เตียงในโรงพยาบาลจะกลับมาเพียงพอ ถ้าการระบาดยังขึ้นแบบนี้อยู่ เราไม่ทราบว่าอยู่จุดพีคของการระบาดแล้วหรือไม่ เพราะแม้วันนี้จะรายงานรายใหม่ 1.7 หมื่นราย แต่ที่ตรวจด้วยตัวเองหรือเซลฟ์เทสต์เราไม่ทราบว่าจำนวนเท่าไร ซึ่งสัปดาห์หน้าอาจมีการรายงาน” นพ.สมศักดิ์กล่าว

นพ.สมศักดิ์กล่าวว่า ส่วนสถานการณ์เตียงนั้น ถ้าผู้ป่วยใน กทม.เกินพันก็แย่แล้ว วันนี้ยอดทั่วประเทศ 1.7 หมื่นคนเป็น กทม. 4-5 พันคน เรียนตรงๆ เตียงไม่พอทั้งสีเหลือง สีแดงตอนนี้เต็มหมด จะมีสีเขียวที่ว่างตามฮอสปิเทล เพราะเราทำ Home Isolation ซึ่งก็มีปัญหาเรื่องซัพพลายยา โดยหลายฝ่ายกำลังช่วยกันอยู่ ซึ่งเตียงในกทม.หากมีผู้ป่วย 3-4 พันก็เกินรองรับมาแล้ว 3 เท่า ตอนนี้เพิ่มเกินลิมิตเป็น 5 เท่า เห็นแผนที่สีแดงที่คนกดขอความช่วยเหลือ ต้องขออภัยจริงๆ หน้างานไม่ไหวจริงๆ นำเข้าไปก็ไม่รู้จะให้ไปนอนที่ไหน ฉุกเฉิน (ER) หลายโรงพยาบาลบางครั้งต้องปิดชั่วคราว เพราะไม่มีที่แม้กระทั่งตั้งเตียง

“จำนวนเตียงใน กทม. ปริมณฑลและบางจังหวัดที่ระบาดมากๆ จะเจอปัญหาไอซียูหรือกึ่งไอซียูไม่เพียงพอ ตอนนี้ทางออก หากอาการไม่หนัก คือ ให้รักษาที่บ้าน ซึ่งใน กทม.นั้น สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ทำไปแล้ว 3 หมื่นกว่าเตียง กทม.ก็ทำไปแล้วหลายพันเตียง รวมถึง Community Isolation ก็เป็นจุดหนึ่งที่ดำเนินการอยู่ ตอนนี้เตรียมทำฮอสปิเทลปรับเตียงรับผู้ป่วยสีเหลือง 10-20% ไม่สามารถทำได้ 100% เนื่องจากไม่สามารถนำถังผลิตออกซิเจนใส่จำนวนมากได้ ต้องดูเรื่องความปลอดภัยด้วย ขณะนี้ก็ยังติดปัญหาเครื่องผลิตและถังออกซิเจนมีไม่เพียงพอ แต่ก็พยายามปรับระบบเพื่อให้ฮอสปิเทลเป็นสีเหลืองได้” นพ.สมศักดิ์กล่าว

นพ.สมศักดิ์กล่าวว่า ขณะเดียวกันมีความพยายามของ โรงพยาบาลทุกสังกัดขยายเตียงให้เพิ่มมากขึ้น ทราบว่าร่วมมือกับเครือข่าย รพ.เอกชน แต่เรียนตรงๆ ขยายอย่างไรก็ไม่พอกับการระบาด ไม่แน่ใจว่าถึงจุดพีคหรือยัง สิ่งที่ขยายไม่ได้คือกำลังคน ซึ่งจะหมดแรงก่อน ต้องขอความเห็นใจให้กับหมอ พยาบาล บุคลากรหน้างานตอนนี้หลายคนติดเชื้อ วันนี้ก็มีข่าวพยาบาลที่สมุทรปราการเสียชีวิตจากโควิดเช่นกัน ตอนนี้คงต้องใช้ความโดดเด่นของสังคมไทย ความเข้าใจ ความเอื้อเฟื้ออารีซึ่งกันและกันมาเสริมแรงกันในการทำงาน เพื่อช่วยกันกดการระบาดให้ได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน