สธ.พบลูกจ้างเอาต์ซอร์สค่ายมือถือ ขายคิวฉีดวัคซีนบางซื่อ สั่งแจ้งความเอาผิดแล้ว ยันหากมีคนในร่วม-ฟันซ้ำเต็มที่ อธิบดีกราบขออภัยภาพแออัด

เมื่อวันที่ 29 ก.ค.64 นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงการจัดบริการศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อว่า ศูนย์นี้เป็นความร่วมมือโดยกระทรวงคมนาคมให้ใช้สถานที่ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ไปจัดบริการเรื่องฉีดวัคซีน ต้องกราบขออภัยประชาชน 2 เรื่อง คือ

1.การปรากฏภาพความแออัดที่ทำให้ประชาชนไม่สบายใจในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มาจากการเปิดออนไซต์ ให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้มีน้ำหนักมากเกิน 100 กิโลกรัม และหญิงตั้งครรภ์วอล์กอินเข้ามารับการฉีดวัคซีน เลยจัดเวลาไม่ได้ แต่วันนี้ได้รับการแก้ไขแล้ว

2.การเปิดลงทะเบียนล่วงหน้าผ่านผู้ให้บริการคเรือข่ายมือถือ 4 ราย เพื่อรับการฉีดวัคซีนเมื่อเช้าวันนี้ตอน 09.00 น. แต่เปลี่ยนแปลงนโยบายจำนวนในการมาเติมวัคซีน จึงพูดคุยภายในและต้องเลื่อนการเปิดลงทะเบียนเป็นเวลา 11.00 น. จึงต้องขออภัยในความไม่สะดวก

นพ.สมศักดิ์กล่าวว่า ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อทดสอบระบบโดยฉีดวัคซีนให้บุคลากรกระทรวงคมนาคม เช่น วินมอเตอร์ไซค์ คนขับรถเมล์ แท็กซี่ เพราะอาจเสี่ยงแพร่เชื้อ และเปิดบริการวันที่ 7 มิ.ย.2564 แม้จะยังไม่ครบ 2 เดือน แต่เราฉีดครบ 1 ล้านโดสไปเมื่อวันที่ 27 ก.ค. ซึ่งก่อนที่จะเปิดบริการ โดยช่วงมิ.ย.พบระบาดมาก รายงานผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่คือผู้สูงอายุ และมีโรคร่วม จึงฉีดกลุ่มเปราะบางอายุ 65 ปีขึ้นไปแบบออนไซต์

แต่เมื่อวันที่ 5 ก.ค. พบมีผู้มารับบริการจำนวนมากจนแออัดมากเกินไป จึงขอปรับวอล์กอิน ออนไซต์เป็นอายุ 75 ปีขึ้นไป จำนวนก็ลดลง จัดระบบทำให้ไม่แออัดได้ โดยวันที่ 22 ก.ค. สามารถฉีดกลุ่มอายุ 75 ปีขึ้นไปค่อนข้างครอบคลุมแล้วจะตรงกับข้อมูลที่กรมควบคุมโรครายงานว่า ผู้สูงอายุในกทม.ฉีดไปแล้วเกือบ 80% จึงฉีดวอล์กอินกลุ่ม “602” คือ อายุเกิน 60 ปีขึ้นไป หญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ และผู้มีน้ำหนักเกิน 100 กิโลกรัม จึงเป็นภาพความแออัดที่เกิดขึ้น

“เราพยายามทำจุดมาร์ก แต่ไม่ได้ผล เพราะคนมาเยอะ จึงขอให้คนน้ำหนักเกิน 100 ก.ก.มาช่วงบ่าย เพราะส่วนใหญ่ความแออัดจะเกิดช่วง 8 โมง แต่ประมาณ 10 โมงก็จะโล่ง เราก็ปรับไปแก้ไป ต้องขอบคุณกระทรวงคมนาคม ตำรวจรถไฟ และทหารที่มาช่วยจัดระบบ” นพ.สมศักดิ์กล่าว

ส่วนที่จะเริ่มวันที่ 1 ส.ค. เพื่อให้การบริการเป็นระบบ จึงไม่มีการออนไซต์มาแออัด โดยเปิดทั่วไปลงทะเบียนแทน ซึ่งจริงๆ การเปิดลงทะเบียนจองการฉีดทำตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. และทุกวันนี้ยังมีคนลงทะเบียนมารับบริการอยู่ แต่ครั้งนี้ขอเน้นที่อายุ 60 ปีขึ้นไปมากหน่อย ส่วนกลุ่มอายุ 18-60 ปีจะลดลงหน่อย โดยหารือกับเครือข่ายค่ายมือถือทั้ง 4 รายแล้ว เมื่อลงทะเบียนจะระบุชัดว่า ช่วงเวลาไหนรับจำนวนเท่าไร เข้าใจว่าตอนนี้มีการลงทะเบียนมามากพอสมควร หรืออาจเต็มจำนวนแล้ว

นพ.สมศักดิ์ กล่าวอีกว่า กทม.มีหน่วยบริการฉีดวัคซีนทั้งรัฐ เอกชน หรือในห้างสรรพสินค้า เป็นต้น แต่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อเป็นการฉีดแบบเก็บตกให้แก่ 1.ผู้มีภูมิลำเนาใน กทม. 2.ผู้ทำงานใน กทม.ที่มีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด 3.ผู้สูงอายุในกทม.และปริมณฑลมีภูมิลำเนาชัดเจน 4. ผู้ไร้บ้าน และ 5.เมื่อฉีดวัคซีนครอบคลุมคนไทยก็จะมีการฉีดให้ชาวต่างชาติ ซึ่งเปิดไปเมื่อ 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเน้นชาวต่างชาติอายุเกิน 60 ปี มีถิ่นพำนักในประเทศไทยถูกกฎหมาย

ทั้งหมดเป็นนโยบายที่พยายามเก็บตกในพื้นที่กทม.และปริมณฑลในกลุ่มผู้สูงอายุ ส่วนแนวทางลดความแออัด เราเปิดประตูศูนย์ให้เร็วขึ้น จากเวลา 09.00 น. คนที่ลงทะเบียนมาแล้วปัจจุบันไม่ต้องวัดความดัน ยกเว้นคนไม่สบายใจ หรือมีปัญหาความดันโลหิตก็วัดได้ ปรับระบบการเข้าแถวให้ไปในทิศทางเดียวกัน ให้หางแถวไม่ซ้อนกัน ย้ายที่จอดรถมอเตอร์ไซต์ เน้นการยืนบนสติกเกอร์ 2,400 จุด

เมื่อถามถึงการลงทะเบียนผ่านระบบเครือข่ายมือถือ 4 ค่ายล่ม กรอกข้อมูลไม่ได้ นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ต้องขออภัยช่วงแรกที่วางแผน 09.00 น. เมื่อมีนโยบายเรื่องการสนับสนุนวัคซีนเปลี่ยนไป ซึ่งเราเน้นกลุ่มสูงอายุและ 7 โรค ส่วนอายุ 18-60 ปี อาจไม่ได้เป็นจุดเน้น มีโควตาให้ไม่มาก เลยปรับเปลี่ยนเล็กน้อย 4 ค่ายมือถือต้องปรับระบบภายใน จึงต้องหารือกันและเปิด 11.00 น. ส่วนระบบล่มไม่ทราบ เพราะโอเปอเรเตอร์ดำเนินการ

เมื่อถามถึงกรณีแฮกข้อมูลขายสิทธิขายคิวฉีดวัคซีนและมีกระแสเจ้าหน้าที่กรมการแพทย์ร่วมด้วย นพ.สมศักดิ์กล่าวว่า ผอ.สถานีกลางบางซื่อรายงาน 2-3 วันก่อนสงสัยมีความผิดปกติ โดยเฉพาะการมารับบริการช่วงท้ายๆ ของวัน เหมือนมีคนลงทะเบียนผ่านค่ายมือถือ แต่คนที่มาฉีดจะแสดงความผิดปกติบางอย่าง เช่น รีบร้อน

จึงหากระบวนการตรวจจับ ก่อนหารือค่ายมือถือค่ายนั้น ซึ่งเป็นค่ายที่คอนแทรคเอาต์ให้บริษัทย่อยให้คนมาช่วยจัดคิวและลงทะเบียน พบเป็นจุดเดียวที่มีปัญหา จึงร่วมกับค่ายมือถือดังกล่าวล่อซื้อ เมื่อวานพบประมาณเกือบ 100 คนเข้ามา เราก็ปล่อยมาตามระบบและยกเลิกทันที เพื่อให้เจ้าตัวมาแสดงตัวว่าไม่ได้ฉีด เพราะได้รับความเสียหายก็มาแสดงตัว จากนั้นให้ลงบันทึกข้อความ เล่าว่าติดต่อผ่านใคร โดยพบเป็นลูกจ้างที่ถูกจ้างมาอีกทอดของค่ายมือถือ

“ส่วนที่บอกว่าเจ้าหน้าที่กรมร่วมด้วย ยังไม่ทราบ โดยให้ผอ.กลุ่มคุ้มครองจริยธรรม กรมการแพทย์และผอ.ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อไปแจ้งความ และคุยกับตำรวจรถไฟร่วมกันแจ้งความ และกันพยานซึ่งเป็นคนที่เสียเงินไปซื้อวัคซีนมาให้ข้อมูล เพื่อเอาผิดให้ถึงที่สุด ส่วนเจ้าหน้าที่กรมถ้าร่วมด้วยก็ไม่ละเว้น เพราะสุขภาพประชาชนซื้อขายไม่ได้ หากมีส่วนเกี่ยวข้องจะสืบข้อเท็จจริง สืบสวนลงโทษ แต่ขณะนี้มีแต่ลูกจ้างที่จ้างโดยค่ายมือถือที่ไปเติมทะเบียนผู้มารับวัคซีนเอง” นพ.สมศักดิ์กล่าว

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน