โคราช พบติดโควิดเพิ่ม 368 จับตา 10 คลัสเตอร์ใหญ่ หวั่นเเพร่เชื้อทั่วเมือง ยอดผู้ป่วยสะสม 6,629 ราย รักษาหายแล้ว 3,030 ราย เสียชีวิตสะสม 57 ราย
วันที่ 31 ก.ค.2564 นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ผช.ผอ.รพ.มหาราชนครราชสีมา เปิดเผยว่า ข้อมูลศูนย์โควิด19โคราช เมื่อวานนี้ พบยอดผู้ป่วยรายใหม่ของจังหวัดนครราชสีมา พุ่งสูงถึง 444 ราย ถือเป็นยอดนิวไฮอีกครั้ง โดยพบผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงสูง 225 ราย รับผู้ป่วยเข้ามารักษา 34 ราย และสัมผัสผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ 185 ราย ซึ่งจะเห็นว่า ตั้งแต่วันที่ 26 มิ.ย. 2564 ถึงปัจจุบัน
กราฟจำนวนผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มจำนวนขึ้นตลอด และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตัวเลขกลุ่มผู้ที่มาจากพื้นที่เสี่ยงก็มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นด้วย โดยถ้ากลุ่มนี้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรค ก็จะไม่สร้างปัญหา แต่หากไม่มีการกักตัว หรือไม่มีการเข้มงวดตรวจสอบ ก็จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้โควิด19 เข้ามาแพร่ระบาดในพื้นที่ต่างๆของจังหวัดได้ง่าย ดังนั้น ถ้าทีมฝ่ายปกครองและสาธารณสุข จะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ซึ่งเชื่อว่า น่าจะช่วยลดยอดผู้ป่วยยืนยันลงได้
ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด19 วันนี้ พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มอีก 368 ราย โดยมาจากพื้นที่เสี่ยง 207 ราย รับผู้ป่วยเข้ามารักษา 36 ราย และสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน 125 ราย ซึ่งในยอด 368 รายนี้ เป็นการตรวจพบเชื้อโควิด 19 ในพื้นที่จังหวัด 243 ราย และติดเชื้อมาจากนอกพื้นที่จังหวัด 125 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสม 6,629 ราย ทั้งนี้รักษาหายแล้ว 3,030 ราย ยังรักษาอยู่ 3,542 ราย และเสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ทำให้มียอดเสียชีวิตสะสม 57 รายแล้ว
โดยผู้เสียชีวิตรายที่ 57 ของจังหวัด เป็นผู้ป่วยโควิด19 ลำดับที่ 5102 เพศหญิง อายุ 80 ปี ชาว ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันโควิด19 เริ่มมีอาการป่วยและเข้ามารักษาที่ รพ.ครบุรี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2564 และตรวจพบว่าติดเชื้อ วันที่ 28 กรกฎาคม 2564 มีอาการเหนื่อยหอบมากขึ้น จึงส่งรักษาต่อที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา จนวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 อาการไม่ดีขึ้น และเสียชีวิตลงในเวลา 11.40 น.
ทั้งนี้ มี 10 คลัสเตอร์ใหญ่ที่ต้องจับตาเฝ้าระวังเป็นเศษในช่วงนี้ ได้แก่ 1.คลัสเตอร์ แคมป์ก่อสร้าง บริษัท BSY อ.สูงเนิน พบผู้ติดเชื้อแล้ว 217 ราย ซึ่งศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค อ.สูงเนิน หรือ ศปก.อ.สูงเนิน ได้สั่งปิดแคมป์ก่อสร้างเป็นเวลา 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2564 – 28 สิงหาคม 2564 และได้ให้ทีมสอบสวนโรควางแผนการควบคุมโรคและประเมินพื้นที่กักตัว จัดแยกกักตัวกลุ่มเสี่ยงสูงและเฝ้าระวังผู้สัมผัสเสี่ยงสูง กับค้นหาเชิงรุก Rapid Test ซ้ำ
2.คลัสเตอร์ครอบครัว ต.หนองสรวง อ.ขามทะเลสอ ซึ่งผู้ป่วยรายแรกของคลัสเตอร์นี้ ทำงานที่ โรงงานซีเกท อ.สูงเนิน และดำนา-ทานข้าวร่วมกับครอบครัว และต่อมาพบว่าเชื้อโควิดได้แพร่กระจายไปในกลุ่มเครือญาติ มีผู้ป่วยรวม 7 รายแล้ว
3.คลัสเตอร์ครอบครัว เครือญาติ อ.หนองบุญมาก ติดเชื้อมาจากการเดินทางไปร่วมงานศพที่ จ.บุรีรัมย์ มีผู้ป่วยติดเชื้อรวม 7 ราย
4.คลัสเตอร์ คนเก็บของเก่า ต.หมื่นไวย อ.เมืองนครราชสีมา เชื้อแพร่กระจายไปถึง 4 วง ทั้งในเครือญาติ ร้ายขายอาหาร กระจายไปยังลูกค้าร้านอาหารและครอบครัว ทำให้ผู้ติดเชื้อรวม 14 ราย
5.คลัสเตอร์ผู้ป่วยโรงงานไก่ อ.โชคชัย เริ่มจากผู้ป่วยสาวชาวลาวทำงานในโรงงาน และเชื้อกระจายไปติดเพื่อนร่วมงาน แล้วแพร่ไปติดคนครอบครัวคนงานที่ อ.ครบุรี รวมมีผู้ติดเชื้อคลัสเตอร์นี้ 12 ราย
6.คลัสเตอร์ โรงงานแปรรูปไก่ บริษัท ซันฟู้ด อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จ.สระบุรี รายแรกเป็นคนงานของโรงงาน แล้วกระจายเชื้อสู่ครอบครัว เครือญาติ และคนที่รู้จัก ใน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา และ อ.ปากช่อง รวมมีผู้ติดเชื้อแล้ว 38 ราย
7.คลัสเตอร์ แคมป์ก่อสร้างทางรถไฟ ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จากการตรวจหาเชื้อเชิงรุก มีผู้ติดเชื้อรวม 10 รายแล้ว และมีกลุ่มเสี่ยงอีกกว่า 400 รายที่รอผลตรวจเชื้ออยู่
8.คลัสเตอร์ แคมป์ก่อสร้างทางรถไฟถนนโค้ง อ.ปากช่อง เบื้องต้นพบผู้ป่วยโควิด19 ในคลัสดเตอร์นี้ 66 ราย โดยเป็นผู้ป่วยโควิด ของ จ.นครราชสีมา 47 ราย , จ.สระบุรี 11 ราย และต่างจังหวัดอีก 8 ราย
9.คลัสเตอร์ตลาดสดเทศบาลตำบลปากช่อง (ตลาดเช้า) ผู้ติดเชื้อรายแรกแม่ค้าร้านปลาร้าในตลาด จากนั้นเชื้อแพร่กระจายออกไปถึง 3 วง โดยติดในครอบครัว กลุ่มแม่ค้า-พ่อค้าในตลาด และกระจายไปยังกลุ่มลูกค้า ทั้งในพื้นที่ อ.ปากช่อง อ.วังน้ำเขียว และ อ.ประทาย รวมมีผู้ติดเชื้อคลัสเตอร์นี้ 330 ราย
10.คลัสเตอร์ ทหารอากาศ อ.เมืองนครราชสีมา โดยรายแรกเดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยงสูง ต.บางบ่อ จ.สมุทรสาคร แล้วเชื้อกระจายไปในกลุ่มเครือญาติ และเพื่อนทหาร รวมมีผู้ป่วยคลัสเตอร์นี้ 11 ราย
