ฉะเชิงเทรา วุ่น บ้านพักคนชรา ติดโควิดทั้งหมด ดับแล้ว 2 พบลักลอบเปิดมานาน 1 ปี ยังไม่ได้รับอนุญาต พื้นที่สกปรก ไม่ถูกสุขลักษณะ ทิ้งขยะติดเชื้อริมถนน

เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 2564 นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีสถานประกอบการรับดูแลผู้สูงอายุ คนชรา ที่อยู่ระหว่างพักฟื้น แบบช่วยเหลือตัวเองได้ และแบบช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ที่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ อัมพฤกษ์ครึ่งซีก ที่ไม่มีคนดูแล ชื่อ “แม่จ๋า พ่อจ๋า โฮมแคร์” ซึ่งเป็นของเอกชน มีคนชราที่อยู่ในความดูแลเสียชีวิตเพราะติดเชื้อโควิด-19 หลายราย โดยทราบว่ามี น.ส.สาธิดา ประทีปวัฒนวิทย์ อายุ 49 ปี เป็นเจ้าของที่ดูแลสถานประกอบการแห่งนี้

อีกทั้งสถานประกอบการดังกล่าว ไม่มีการบริหารจัดการสิ่งปฏิกูลและขยะปนเปื้อนที่ถูกสุขลักษณะ โดยมีการนำใส่ถุงแดงมากองทิ้งไว้ริมถนนสายฉะเชิงเทรา-สุวินทวงศ์ ต.คลองหลวงแพ่ง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา น้ำที่ใช้ในการซักล้างสิ่งสกปรกเททิ้งลงบนพื้นและไหลไปยังบ้านเรือนใกล้เคียง ซึ่งสร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้าน เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เสียชีวิตติดต่อกันหลายราย โดยเห็นกู้ภัยมาเก็บศพออกจากบ้าน และไม่เชื่อมั่นในความปลอดภัย

ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา จึงมอบหมายสั่งการให้อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา และชุดปฏิบัติการเฝ้าระวังและควบคุมโรคโควิด-19 ประจำตำบลคลองหลวงแพ่ง ลงตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น พบเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น 2 ห้อง อยู่ติดริมถนนสายฉะเชิงเทรา-สุวินทวงศ์ ก่อนข้ามสะพานคลองหลวงแพ่ง ที่จะมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ โดยมีแรงงานไทยใหญ่กำลังนำผ้าใบสีฟ้าปิดล้อมรั้วของอาคาร

จากการตรวจสอบพบว่าสถานประกอบการแห่งนี้กำลังอยู่ระหว่างการขอขึ้นทะเบียน เพื่อเป็นสถานประกอบการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาระพึ่งพิงโดยมีการพักค้างคืน ในลักษณะกิจการนิติบุคคล เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2564 แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติ ขณะที่สถานประกอบการบ้านพักคนชราแห่งนี้เปิดดำเนินการมาแล้วกว่า 1 ปี

ในเบื้องต้นทราบว่ามีผู้สูงอายุเข้าพักอาศัยอยู่ทั้งสิ้น 22 คน พบว่าติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 15 คน และมีผู้เสียชีวิต 2 คน บางส่วนเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนามแล้ว แต่ขณะนี้ยังมีผู้สูงอายุที่ยังรักษาตัวอยู่ภายในสถานประกอบการแห่งนี้อีก 10 คน เป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีผู้ดูแลผู้ป่วยอีก 4 คน ติดเชื้อแล้ว 2 คน ส่วนอีก 2 คน ยังไม่ติดเชื้อ

เจ้าหน้าที่ได้ใส่ชุด PPE เข้าไปสำรวจด้านใน พบว่าเป็นสถานที่ที่ไม่เหมาะแก่การนำผู้สูงอายุมาพักรักษาตัว พื้นที่มีความสกปรก กลิ่นเหม็นทั้งอุจจาระและปัสสาวะ ผู้สูงอายุนอนบนเตียงใกล้ๆ กัน ทั้ง 3 ชั้น รวมชั้นลอยของอาคารพาณิชย์ ส่วนห้องน้ำมีเพียง 2 ห้องที่ใช้งานได้ ส่วนอาหารการกินได้สร้างเพิงพักด้านหลังอาคารพาณิชย์เพื่อใช้เป็นพื้นที่ทำกับข้าว และยังเป็นพื้นที่ซักล้างสิ่งปฏิกูลต่างๆ

ขณะที่ชาวบ้านทราบข่าวว่ามีเจ้าหน้าที่ลงมาตรวจสอบ ต่างรีบพากันมาร้องเรียนพฤติกรรมของสถานประกอบการแห่งนี้ ชาวบ้านต้องการให้ย้ายออกนอกพื้นที่ไปอยู่ที่อื่น และดำเนินคดีสถานประกอบการดังกล่าว เนื่องจากเปิดทำการโดยไม่ได้รับอนุญาต และยังทำให้ผู้สูงอายุต้องติดโควิด-19 ทั้งหมด จนมีคนเสียชีวิตแล้ว ส่วนขยะปนเปื้อนสารคัดหลั่งของผู้ป่วย ต้องให้หน่วยงานที่ดูแลและทำลายขยะปนเปื้อนเหล่านี้เข้ามาดำเนินการ เพราะมีการนำขยะปนเปื้อนมาทิ้งไว้ริมถนน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน