สธ.ย้ำฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มไม่ว่าสูตรใด ยังป้องกันป่วยหนักและเสียชีวิตได้ อัตราเสียชีวิต 4.4 ต่อล้านคน น้อยกว่าคนไม่ได้ฉีด ฉีดไม่ครบ 30 เท่า
เมื่อวันที่ 21 ส.ค. นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การศึกษาประสิทธิผลของวัคซีนโควิด 19 ซิโนแวค 2 เข็ม มีการประเมินทุกเดือน พ.ค. มิ.ย. และ ก.ค. ส่วนของ ส.ค.กำลังรวบรวม โดย 3-4 เดือนที่ผ่านมา ซิโนแวคมีประสิทธิผลป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิตประมาณ 72% โดยเฉลี่ย โดย 3 เดือนที่ผ่านมาประสิทธิผลอยู่ที่ 71-74% ภาพรวมคือคนรับวัคซีนยังได้ประโยชน์สูงในการป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิต
ส่วนการรับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 1 เข็ม ซึ่งข้อมูลในต่างประเทศสามารถป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิตได้ 70-80% ส่วนในไทยศึกษาในกลุ่มรับวัคซีนตั้งแต่ พ.ค.-ก.ค. ผลลัพธ์ป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิตยังสูง พ.ค. 84% มิ.ย. 93% และ ก.ค. 85% สรุปคืออยู่ใน 80-90% การฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ายังได้ประโยชน์สูง แต่ต้องฉีด 2 เข็ม ซึ่งช่วงนี้ครบกำหนดรับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเข็มที่ 2 สำหรับคนที่รับวัคซีนมาตั้งแต่เดือน พ.ค.-มิ.ย.
สำหรับข้อมูลอีกชุดที่ศึกษาโดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ร่วมกับศิริราชคือ การศึกษาระดับภูมิคุ้มกัน โดยซิโนแวค ตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้า ภูมิคุ้มกันอยู่ในระดับที่สูงในบรรดาการฉีด 2 เข็ม แต่ทั้งซิโนแวค 2 เข็ม แอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม หรือซิโนแวคตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้า ก็ยังอยู่ในระดับสูงเช่นกัน
ส่วนการป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิต คนรับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วมีเสียชีวิต 26 ราย อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ประมาณ 4.4 ต่อล้านคน ถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับคนไม่ได้ฉีดวัคซีนแล้วเสียชีวิต ซึ่งเป็นผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ คิดเป็นอัตรา 140 ต่อล้านคน
“คนฉีดครบ 2 เข็มไม่ว่าสูตรใดก็ตาม อัตราเสียชีวิต 4.4 ต่อล้านคน ส่วนคนไม่ได้ฉีด ฉีดไม่ครบ หรือฉีดครบไม่ถึง 14 วัน ซึ่งภูมิคุ้มกันยังไม่ขึ้น อยู่ที่ประมาณ 140 ต่อล้านคน ต่างกัน 30 เท่า จึงอยากให้ทุกคนในกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะสูงอายุ โรคเรื้อรัง ไปฉีดวัคซีนโดยเร็วไม่ว่าสูตรใดก็ตาม ซึ่งตอนนี้ กระทรวงสาธารณสุขแนะนำสูตรซิโนแวค ตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งภูมิคุ้มกันขึ้นรวดเร็วและสูง จึงเป็นที่มาของการเร่งรัดการฉีดวัคซีนในช่วงนี้” นพ.โสภณกล่าว
