นพ.มนูญ เผยแนวโน้มยอดโควิด จุดพีก-ลดลง ชี้มาตรการการล็อกดาวน์ที่ไม่จำเป็นหรือให้ประโยชน์น้อย รัฐควรผ่อนคลายได้ในไม่ช้า
เมื่อวันที่ 24 ส.ค.64 นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กถึงสถานการณ์โควิด-19ว่า
ตัวเลขผู้ติดเชื้อยืนยันโรคโควิด-19 จะเริ่มลงเมื่อไหร่ ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.64 ถึงปัจจุบันเพียง 4 เดือนกว่าๆ
เริ่มจากมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์อัลฟา(อังกฤษ) ตามมาด้วยการระบาดของสายพันธุ์เดลตา(อินเดีย) ซึ่งพบครั้งแรกวันที่ 21 พ.ค.64 ในคนงานก่อสร้างหลักสี่ 15 รายติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา
จากวันนั้นแค่ 3 เดือนกว่า สายพันธุ์เดลตาแพร่กระจายไปทุกจังหวัดทั่วประเทศ ทำให้มีผู้ป่วยยืนยันสะสมมากถึง 1,037,923 ราย เสียชีวิตสะสม 9,468 ราย ผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 ต่อวัน เริ่มลดลงต่ำกว่า 20,000 คน แต่ตายยังเกิน 200 รายต่อเนื่องไม่ลด
ดูย้อนหลังการคาดการณ์ของธนาคารกรุงศรีอยุธยาเมื่อเดือนที่แล้ว การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตาเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและกระจายไปทุกจังหวัด โดยวิเคราะห์ข้อมูลสถิติของการระบาดในประเทศอินเดีย สหราชอาณาจักรและไทยก่อนหน้านี้ รายงานของธนาคารกรุงศรีฯ ซึ่งทางองค์การอนามัยโลกนำไปอ้างอิง (ดูกราฟ) ระบุ 3 สถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นหลังวันที่ 14 ก.ค.2564
1.สถานการณ์ดีที่สุดของประเทศไทย คาดการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อไม่เกิน 10,000 รายต่อวัน
2.สถานการณ์ดีปานกลาง คาดการณ์ผู้ติดเชื้อจะเพิ่มสูงประมาณ 15,000 รายในช่วงส.ค.ต่อก.ย. ก่อนจะลดลงเหลือ 1,000 คนในเดือนพ.ย.
3.สถานการณ์แย่ที่สุด คาดการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะพุ่งสูงถึง 22,000 ราย ในช่วงปลายเดือนส.ค.และต้นก.ย. แล้วจะค่อยๆ ลงมาในเดือนต.ค. เนื่องจากมีวัคซีนป้องกันโรคโควิดไม่เพียงพอ วัคซีนที่ได้มาประสิทธิภาพไม่สูงพอ ประกอบกับการล็อกดาวน์ได้ผลไม่มากนัก
ปรากฏว่าการคาดการณ์สถานการณ์ที่แย่ที่สุดของธนาคารกรุงศรีเมื่อวันที่ 14 ก.ค. ตรงกับสถานการณ์จริงปัจจุบัน
ปัจจุบันมีผู้รับวัคซีนสะสมทั้งหมด 27 ล้านโดส เป็นเข็มแรก 20 ล้านกว่าโดส เข็มสอง 6 ล้านโดส ถ้าเราเร่งหาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ ฉีดให้คนไทย โดยเฉพาะคนสูงอายุ คนที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง 7 โรค และหญิงตั้งครรภ์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ รวมทั้งยังล็อกดาวน์ต่อเนื่อง ตัวเลขผู้ติดเชื้อยืนยันอาจจะถึงจุดสูงสุดเดือนนี้ แล้วค่อยๆ ลงช้าๆ ตามกราฟของธนาคารกรุงศรีที่คาดการณ์ใว้น่าจะเป็นไปได้สูง
ดังนั้นมาตรการการล็อกดาวน์ที่ไม่จำเป็นหรือให้ประโยชน์น้อย รัฐควรผ่อนคลายได้ในไม่ช้า