สธ. เปิดสูตรฉีดวัคซีนโควิด ตามกลุ่มเป้าหมาย 18 ปีขึ้นไป ฉีดไขว้ บุคลากรแพทย์ด่านหน้าจัดฉีด 5 สูตร ป่วยโรคเรื้อรัง รับไฟเซอร์ หญิงท้อง ได้ทั้งไขว้-ไฟเซอร์

วันที่ 25 ส.ค. นพ.เฉวตสรร นาทวาท ผอ.กองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงการฉีดวัคซีนสูตรไขว้ ว่า การฉีดไขว้วัคซีนคนละยี่ห้อ หากติดตามจากรายงานผลการศึกษาที่ผ่านมา โดยเอาเลือดของอาสาสมัครที่ฉีดวัคซีนและมีภูมิคุ้มกันมาทดสอบกับเชื้อเดลตาในหลอดทดลองที่มีการเพาะเชื้อว่า ยับยั้งเชื้อได้ผลดีหรือไม่ ซึ่งวัคซีนยังเป็นการพัฒนามาจากสายพันธุ์อู่ฮั่นนั้น

พบว่า การฉีดซิโนแวค 2 เข็ม ภูมิคุ้มกันอยู่ที่ 24.31 แอสตร้าเซนเนก้าตามด้วยซิโนแวค ภูมิคุ้มกัน 25.83 ถือว่าใกล้เคียงไม่ต่างกันเท่าไร ส่วนซิโนแวค 2 เข็มกระตุ้นด้วยซิโนฟาร์ม ซึ่งเป็นวัคซีนเชื้อตายเหมือนกัน ภูมิคุ้มกัน 61.26 หรือเพิ่มขึ้น 2-3 เท่าสอดคล้องกับการศึกษาในต่างประเทศ

หากเป็นแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม ภูมิคุ้มกัน 76.52 สูงกว่าซิโนแวค 2 เข็ม 3 เท่า ส่วนอังกฤษศึกษาประสิทธิผลแอสตร้าฯ 2 เข็มป้องกันป่วยหนักและเสียชีวิตเกินกว่า 90%

ทั้งนี้ วิธีการเทียบเคียงภูมิคุ้มกันกับแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม คือ ฉีดไขว้แล้วได้ภูมิคุ้มกันในระดับเดียวกัน ก็ถือว่าได้ผลดีน่าพอใจ ปรากฏว่า การฉีดซิโนแวคแล้วตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้า ได้ภูมิคุ้มกัน 78.65 อยู่ในระดับเดียวกัน และหากฉีดซิโนแวค 2 เข็ม กระตุ้นด้วยแอสตร้าฯ ภูมิคุ้มกันเพิ่มสูงมากเป็น 271.17 หรือสูงขึ้น 10-11 เท่าเมื่อเทียบกับซิโนแวค 2 เข็ม

ซึ่งตรงนี้มีการฉีดในบุคลากรทางการแพทย์ในช่วงที่วัคซีนไฟเซอร์ยังไม่มา โดยบุคลากรทางการแพทย์ที่เลือกฉีดเข็ม 2 เป็นแอสตร้าฯ ก็จะได้ภูมิคุ้มกันสูงเช่นนี้ มีความมั่นใจสู้กับสายพันธุ์เดลตาได้

“ส่วนประชาชนที่ฉีดซิโนแวค 2 เข็มก่อนหน้านี้ การกระตุ้นเข็ม 3 นอกจากบุคลากรทางการแพทย์ จะมีการพิจารณาก็มีแนวโน้มหาทางมากระตุ้นให้ หากมีการฉีดเข็ม 1 และ 2 แพร่หลาย คาดว่าปีหน้ามีโอกาสเพิ่มตรงนั้น แต่จะต้องดูความก้าวหน้าทางวิทยาการ หากวัคซีนมีการพัฒนารุ่นที่ 2 มา อาจเป็นการฉีดในรอบปีถัดไป ฤดูกาลถัดไปก็เป็นผลดียิ่งกว่า” นพ.เฉวตสรรกล่าว

นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า สำหรับปริมาณวัคซีนนั้น นายกฯ ได้ปรึกษากับทางประธานบริหารของแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งเดิมการส่งมอบวัคซีนช่วงหลังของปีนี้ ภาพรวมได้ทั้งปี 40-50 ล้านโดส แต่เจรจาแล้วแอสตร้าฯ จะเร่งส่งมอบให้ครบ 61 ล้านโดสเมื่อถึงปลายปี เมื่อเรามีแอสตร้าฯ ที่เยอะ ซิโนแวคที่หาเพิ่มมาไขว้กัน ทำให้การฉีดมีความครอบคลุมสูงยิ่งขึ้น รวดเร็วตามเป้าหมายจะให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่

นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า อีกประเด็นที่มีคนสงสัยสูตรวัคซีนเป็นอย่างไร การปรับสูตรเป็นซิโนแวคตามด้วยแอสตร้าฯ เป็นแนวทางที่ปรับเปลี่ยนให้ปฏิบัติทั่วประเทศ คนที่ฉีดซิโนแวคก่อนและใบนัดหมายเข็ม 2 ยังเป็นซิโนแวค หากไปวันนัดก็น่าจะได้รับการเปลี่ยนเป็นแอสตร้าฯ ตามนโยบายที่กล่าวนี้ ทั้งนี้ หากแยกการฉีดวัคซีนตามสูตรต่างๆ แบ่งตามกลุ่มเป้าหมาย

ดังนี้ กลุ่มเป้าหมายอายุ 18 ปีขึ้นไป ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรัง 7 โรค หญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ จะฉีดสูตรซิโนแวคตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้าห่างกัน 3 สัปดาห์เป็นสูตรหลัก หรือบางกรณีที่มีความจำเป็นทางด้านการแพทย์ หรือฉีดเข็มที่ 1 เป็นแอสตร้าฯ อยู่แล้ว จะฉีดเข็ม 2 เป็นแอสตร้าฯ ต่อ ห่าง 12 สัปดาห์

ดังนั้น การฉีดด้วยสูตรหลักซิโนแวค-แอสตร้าฯ ใช้เวลากระตุ้นภูมิคุ้มกันน้อยกว่า โดยฉีดห่าง 3 สัปดาห์ และอีก 2 สัปดาห์ภูมิจะขึ้นเต็มที่ จึงใช้เวลารวม 5 สัปดาห์ ความกังวลเรื่องสายพันธุ์เดลตาน่าจะลดลง

กลุ่มเป้าหมายเด็กอายุ 12-18 ปีที่มีโรคเรื้อรัง 7 โรค และหญิงหญิงครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป จะฉีดไฟเซอร์ 2 เข็ม ห่าง 3 สัปดาห์

กลุ่มเป้าหมายบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า มีสูตรการฉีด คือ 1.หากได้รับวัคซีนซิโนแวคหรือซิโนฟาร์มครบ 2 เข็ม จะได้วัคซีนไฟเซอร์เป็นเข็มกระตุ้น แต่ก็เปิดบางส่วนที่เลือกแอสตร้าฯ กระตุ้นได้เช่นกัน 2.หากฉีดซิโนแวค หรือซิโนฟาร์ม หรือแอสตร้าฯ แล้ว 1 เข็ม จะให้ไฟเซอร์เป็นเข็มสอง กำหนดระยะห่างตามชนิดวัคซีนเข็มที่ 1 เป็นหลัก 3.การฉีดซิโนแวคเข็มแรกและตามด้วยแอสตร้าฯ เข็ม 2 ห่าง 3 สัปดาห์ 4.ฉีดไฟเซอร์ 2 เข็ม ห่าง 3 สัปดาห์ และ 5.แอสตร้าฯ 2 เข็มห่าง 12 สัปดาห์

“การกระจายของวัคซีนที่ผ่านมาในส่วนของไฟเซอร์ยังมุ่งเน้นใน 13 จังหวัดสีแดงเข้ม เพราะฉะนั้นในรอบต่อไปที่จะได้รับส่งมอบวัคซีนที่จัดมาเพิ่มจากไฟเซอร์ 30 ล้านโดส จะทยอยส่งมอบมา ส่วนซิโนแวคที่เพิ่ม 12 ล้าน จะทยอยมาด้วย จะมาไขว้กันกับแอสตร้าฯ ได้พอดี จึงขอย้ำคนมีโรคประจำตัวหรือสูงอายุไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของวัคซีน

การติดตามอาการไม่พึงประสงค์หลังการฉีดสูตรไขว้ อัตราการเจอเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์หรืออาการข้างเคียง ไม่แตกต่างจากเดิมที่ฉีดแต่ละตัวแต่ละเข็ม ในข้อกังวลว่าจะฉีดได้หรือไม่ ถ้าเงื่อนไขตรงตามหลักเกณฑ์ไม่ต้องกังวล เมื่อไปฉีดบุคลากรทางการแพทย์ จะสอบทานประวัติและให้ข้อแนะนำได้ โดยรวมก็ปฏิบัติตามนโยบายและทิศทางนี้ได้ทั้งหมด จะเห็นว่ามีสูตรทางเลือก บางท่านอาจมีประวัติแพ้ใช้สูตรไม่ได้ ก็มีทางเลือกได้” นพ.เฉวตสรรกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน