สธ. ยันคนไทย 3 ล้านคน ได้ฉีดเข็ม 3 ปลายเดือนหน้า! ย้ำต้อง “เวิร์กฟอร์มโฮม” ต่อ ขอเวลา 1 เดือน ผ่อนคลายมาตรการเพิ่มอีก
เมื่อวันที่ 29 ส.ค.64 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ระบาดของโควิด-19 เริ่มชะลอตัว ศบค. ได้เห็นชอบการผ่อนคลายกิจกรรมบางส่วน เช่น สามารถนั่งรับประทานอาหารในร้าน สำหรับห้องปิด มีเครื่องปรับอากาศก็อนุญาตนั่งได้ 50% ของความจุพื้นที่ สำหรับร้านเปิดโล่งอนุญาต 75% ซึ่งยังไม่มีการปรับพื้นที่สี ยังยึด 29 จังหวัดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด
นพ.โอภาส กล่าวว่า สำหรับมาตรการอื่นๆ ยังต้องเข้มข้นต่อไป โดยเฉพาะการทำงานจากที่บ้าน ก็ขอให้ทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือกันต่อเนื่องอีก 1 เดือน เพื่อพิจารณาตัวเลขผู้ติดเชื้อว่าลดลงไปในระดับใด หลังจากนั้นจึงจะพิจารณาผ่อนคลายมาตรการอื่นเพิ่มเติม และที่สำคัญคือ ทุกคนต้องปฏิบัติมาตรการ Universal Prevention for COVID-19 ด้วยการป้องกันตนเองสูงสุด คิดเสมอว่า คนใกล้ตัวอาจเป็นผู้ติดเชื้อ และเราเองก็อาจเป็นคนแพร่เชื้อได้
ดังนั้น ต้องเข้มงวดมาตรการ DMHTT ต่อเนื่อง และเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 นอกจากนี้ มาตรการองค์กรต่างๆ จะต้องเพิ่มในเรื่องการตรวจหาเชื้อโควิด ด้วยการตรวจเร็ว ATK เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรค
“องค์กรต่างๆ ที่เริ่มผ่อนคลาย ต้องดูเรื่องสถานที่ให้มีอากาศถ่ายเทสะดวก โดยเฉพาะร้านอาหารที่ติดแอร์ รวมถึงพนักงานต้องฉีดวัคซีนให้ครบถ้วน และตรวจหาเชื้อโควิดด้วย ATK อย่างสม่ำเสมอ ช่วงแรกนี้ยังไม่บังคับเพราะการกระจาย ATK ยังไม่ทั่วถึง แต่ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เชื่อว่าหลายฝ่ายไม่ว่าสมาคมภัตตาคาร ร้านค้าก็ยินดีร่วม และเดือนหน้าจะมี ATK มากขึ้น โดยสิ่งนี้จะเป็นพื้นฐานการดำรงชีวิของคนไทย” นพ.โอภาส กล่าว
นพ.โอกาส กล่าวอีกว่า สำหรับวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 3 ของประชาชนทั่วไป อนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนโควิด-19 มีมติให้เริ่มฉีดในช่วงปลายเดือนก.ย.-ต.ค.64 ซึ่งจะเป็นวัคซีนใดก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์วัคซีนที่เรามีในขณะนั้น
ส่วนผู้ที่จะต้องฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 มีประมาณ 3 ล้านคนทั่วประเทศ” นพ.โอภาส กล่าว
นพ.โอภาส กล่าวด้วยว่า ในวันนี้มีการประชุมอนุกรรมการติดตามกำกับการทำงาน ร่วมกับกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะเน้นย้ำการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ควบคุมแคมป์ การเฝ้าระวัง การจัดทีมปฏิบัติการเชิงรุก CCRT Team ให้เกิดความต่อเนื่อง
