หนุ่มวัย 35 โพสต์คลิปสุดวังเวง รักษาโรคโควิด-19 หายแล้ว แต่โดนให้ไปกักตัวที่ศาลาพักศพ หน้าเมรุ ในวัดคนเดียว นอนได้ตอนตี 4 กลัวผีมากกว่าโควิด
เมื่อวันที่ 2 ก.ย.64 กรณีเฟชบุ๊กชื่อ “ว่าที่สิบเอกจารุวงศ์ นิลบรรพต” โพสต์คลิปภาพความวังเวงในวัดแห่งหนึ่ง ที่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ พร้อมกับคำบรรยายถึงการเข้ากักตัว 14 วัน หลังรักษาโควิด-19 หายแล้ว พูดถึงเจ้าหน้าที่ที่นำตัวมากักที่ศาลาที่พักศพภายในวัด อยู่ลำพังเพียงคนเดียว โลกออนไลน์ต่างแห่กันคอมเมนต์เป็นจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่วัดบ้านใหม่สระขุด ต.ทุ่งกระเต็น อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ พบว่ามีคนมากักตัวที่ศาลาพักศพจริง ทราบชื่อคือ นายจารุวงศ์ อายุ 35 ปี ชาวจังหวัดชัยภูมิ และมีภรรยาเป็นคน อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ติดเชื้อโควิด-19 ที่ อ.หนองกี่
นายจารุวงศ์ เล่าว่า หลังจากรักษาโรคโควิด-19 หายแล้ว หมอให้มากักตัวอยู่ที่บ้านอีก 14 วัน แต่บ้านคับแคบ เจ้าหน้าที่ให้ อบต.ทุ่งกระเต็น เป็นคนจัดหาสถานที่กักตัวให้
แต่เมื่อมาถึงที่กักตัว ที่เจ้าหน้าที่จัดหาให้ตอนเวลาประมาณ 5 โมงเย็น เมื่อวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา ตนถึงกับอึ้ง เห็นเจ้าหน้าที่กำลังล้างทำความสะอาดศาลาพักศพที่ตั้งอยู่ติดกับเมรุ ที่สำคัญการเข้ากักตัวในครั้งนี้ ตนจะต้องกักตัวอยู่คนเดียว จึงถ่ายคลิปไว้และพยายามทำให้ได้
แต่ยิ่งค่ำ ยิ่งวังเวง เพราะมีความเงียบสงัด เพราะมองรอบข้างพบแต่เมรุ ยอมรับว่านอนไม่หลับ กะจะขับรถหนีออกไปจากที่แห่งนี้ แต่ก็กลัวจะผิดกฎหมาย จึงพยายามข่มตานอน แต่ทำไม่ได้ ทั้งเสียงจิ้งหรีด เรไร ชวนวังเวง ทั้งยังไม่มีเพื่อน กว่าจะนอนหลับได้เป็นเวลา 04.00 น.ของอีกวันแล้ว
นายบุญธรรม นนตานอก อายุ 65 ปี นายก อบต.ทุ่งกระเต็น กล่าวว่า สาเหตุที่เอามากักตัวไว้ที่นี่ เพราะเป็นเหตุเร่งด่วน ไม่สามารถไปกักตัวไว้ที่บ้านได้ เพราะมีสมาชิกครอบครัวหลายคน ประกอบกับสภาพบ้านไม่เอื้ออำนวย เพราะหลังเล็กและคับแคบ โดยวันนี้จะหาที่อยู่ใหม่ให้
น.ส.ปิยวรรณ ปักษาโก อายุ 37 ปี พยาบาลวิชาชีพ รพ.สต.ทุ่งกระเต็น กล่าวว่า เคสนี้เป็นเคสสุดวิสัย เพราะได้รับมาแบบฉุกเฉิน จึงประชุมกันกับทีมงาน และแจ้งให้ภรรยานายจารุวงศ์ ทราบแล้ว ทุกคนยอมรับ จึงเอามากักตัวไว้ที่นี่
