ไฟเขียวแผนจัดสรรวัคซีนโควิด ต.ค. 24 ล้านโดสให้ 5 กลุ่ม เป็นกลุ่ม 18 ปีขึ้นไป ผ่าน 3 สูตร รวม 16.8 ล้านโดส อายุ 12-17 ปี ไฟเซอร์ 4.8 ล้านโดส

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) แถลงภายหลังประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ถึงแผนการให้บริการวัคซีน ในเดือน ต.ค. จำนวน 24 ล้านโดส เป็นซิโนแวค 6 ล้านโดส แอสตร้าเซนเนก้า 10 ล้านโดส และไฟเซอร์ 8 ล้านโดส เห็นชอบพิจารณาจัดสรร 5 กลุ่ม คือ 1 ประชาชนทั่วไปอายุ 18 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ ใช้สูตรวัคซีนซิโนแวค-แอสตร้าเซนเนก้า (SA) แอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม และแอสตร้าเซนเนก้า-ไฟเซอร์ ประมาณ 70% หรือ 16.8 ล้านโดส

2.นักเรียนอายุ 12-17 ปีทั่วประเทศ ใช้สูตรไฟเซอร์ 2 เข็ม 20% หรือ 4.8 ล้านโดส 3.แรงงานในระบบประกันสังคม ใช้สูตร SA 3% หรือ 8 แสนโดส 4.หน่วยงานอื่นๆ เช่น องค์กรภาครัฐ ราชทัณฑ์ ใช้สูตร SA 5% หรือ 1.1 ล้านโดส และ 5.ผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็ม และต้องการกระตุ้นเข็มที่ 3 ด้วยแอสตร้าฯ 2% หรือ 5 แสนโดส

แผนฉีดวัคซีน

การฉีดไฟเซอร์ในเด็กอายุ 12-17 ปี ต้องมีการชี้แจงให้ผู้ปกครองทราบถึงความเสี่ยง เพราะมีรายงานเรื่องกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองก่อนฉีดเด็กเสมอ เป็นความสมัครใจไม่มีบังคับ ซึ่งกลุ่มนี้มีทั้งนักเรียนระดับ ม.1-6 ปวช. ปวส. หรือเทียบเท่า ซึ่งตอนแรกเสนอแบ่ง 2 ระยะ ระยะแรกฉีดเด็กโตก่อนนั้น ที่ประชุมบอกว่าการเข้าไปฉีดในโรงเรียน ซึ่งมีทั้ง ม.ต้นและม.ปลาย หากให้แค่เฉพาะ ม.ปลายอาจใช้เวลาหรือไม่สะดวก จึงขอให้ผ่อนคลายด้านนี้ ซึ่งปลัด สธ.ก็ตอบรับเรื่องนี้ ให้มีการออกแบบระบบต่างๆ ที่ดี ฉีดผ่านสถานศึกษา ทั้งสังกัดรัฐบาล เอกชน ตชด. สอนศาสนา และทหาร

โดยต้องมีการกำหนดจำนวนบุคคล ส่งแจ้งผู้ปกครองเซ็นใบยิยนยอม แจ้งสถานพยาบาลจัดระบบบริการ และกรมควบคุมโรคจะส่งวัคซีนให้ ส่วนการฉีดในโรงเรียนหากมีนักเรียนอายุเกิน 17 ปีเล็กน้อยอนุโลมฉีดไฟเซอร์ได้

ส่วนการฉีดกระตุ้นซิโนแวค 2 เข็มด้วยแอสตร้าเซนเนก้า จะเริ่มใช้ในโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ สำหรับการกระตุ้นในผู้ติดเชื้อ 1-3 เดือนหลังตรวจพบเชื้อและหายดี พ้นระยะกักตัวหรือหากเกิน 3 เดือนให้รับวัคซีนโดยเร็ว ด้วยแอสตร้าฯ หรือไฟเซอร์ 1 เข็ม

ความเสี่ยงวัคซีน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน