ภูเก็ต คลายมาตรการเพิ่ม ร้านอาหารขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์-เล่นดนตรี มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

วันที่ 29 ก.ย.2564 ศูนย์ข้อมูลภูเก็ต เผยแพร่ คำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 5896/2564 ลงวันที่ 28 ก.ย.2564 เรื่อง มาตรการปิดสถานที่หรือห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค โดยให้คำสั่งจังหวัดภูเก็ตที่ 5409/2564 ลงวันที่ 11 ก.ย.2564 ยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไป จนถึงวันที่ 30 ก.ย.2564 มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

โดยมีสาระสำคัญในการกำหนดมาตรการปิดสถานที่หรือห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 มาตรการปิดสถานบริการหรือสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่โรค 1) สถานบริการ สถานบันเทิง และสถานบริการอื่นในลักษณะคล้ายกัน 2) สนามชนไก่ สนามกัดปลา สนามมวย หรือสถานที่จัดให้มีการเล่นการพนัน

ข้อ 2 ให้กิจกรรมดังต่อไปนี้ ปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรค ตามที่ทางราชการกำหนด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด–19 และปฏิบัติตามคู่มือและหลักเกณฑ์การปฏิบัติ Covid Free Setting ตามผนวก แนบท้ายคำสั่งนี้ 1) การซ้อมชนไก่ โดยไม่มีผู้เข้าชมในสนามและงดการจัดให้มีการเล่นการพนัน โดยให้ถือปฏิบัติตามคู่มือและเกณฑ์การปฏิบัติของสถานที่และกิจกรรม

2) การจัดแข่งขันชกมวยในสนามมวยชั่วคราว เพื่อผลิตรายการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์แบบไม่มีผู้ชมและงดจัดให้มีการเล่นการพนัน โดยให้ถือปฏิบัติตามคู่มือและหลักเกณฑ์การปฏิบัติ 3) สถานที่จัดให้มีโต๊ะสนุกเกอร์ บิลเลียด หรือโต๊ะพูล 4) ร้านเกมคอมพิวเตอร์ เกมออนไลน์

ข้อ 3 ห้ามจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มกันของบุคคลซึ่งมีจำนวนรวมกันมากกว่า 200 คน และปฏิบัติตามมาตรการที่ทางราชการกำหนด

ข้อ 4 มาตรการควบคุมแบบบูรณาการ สถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค 1) ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติ 2) ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ให้บริโภคในร้านได้ตามปกติ โดยจำหน่ายและดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้านได้ไม่เกิน 22.00 น.

และสามารถเล่นดนตรีได้โดยจำกัดจำนวนนักดนตรี ไม่เกิน 5 คน โดยนักดนตรีต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา นักร้องถอดหน้ากากอนามัยได้เฉพาะขณะร้องเพลงหรือแสดง ห้ามสัมผัสคลุกคลีกันระหว่างนักร้องนักดนตรีและลูกค้า และปฏิบัติตามคู่มือและหลักเกณฑ์การปฏิบัติ Covid Free Setting ตามผนวกแนบท้ายคำสั่งนี้

ภูเก็ต คลายมาตรการเพิ่ม ร้านอาหารขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์-เล่นดนตรี มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564

ภูเก็ต คลายมาตรการเพิ่ม ร้านอาหารขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์-เล่นดนตรี มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564

3) ตลาดสด ตลาดนัด ถนนคนเดิน ให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคตามที่ทางราชการกำหนด และจำกัดจำนวนผู้เข้าใช้บริการตามขนาดของพื้นที่ 1 คน ต่อ 4 ตารางเมตร 4) ร้านสะดวกซื้อ ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติ 5) สถานที่เล่นกีฬาหรือแข่งขันกีฬา หรือสถานที่ออกกำลังกายให้เปิดบริการ และจัดการแข่งขันได้ทุกประเภท 6) สถาบันการศึกษาทุกระดับ สถาบันกวดวิชา ให้ใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอน หรือกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก ตามมาตรการที่ทางราชการกำหนด

กรณีการจัดการศึกษาแบบนำร่องในการเปิดสถานศึกษารูปแบบใหม่ของการศึกษาเอกชน ตามโครงการเปิดโรงเรียนอย่างปลอดภัย (Phuket Safety Schools Sandbox) ให้สามารถจัดการเรียนการสอนได้ โดยมติเห็นชอบของที่ประชุมคณะกรรมการการศึกษาจังหวัดภูเก็ต และปฏิบัติตามมาตรการ แนวทางปฏิบัติที่กำหนด

ข้อ 5 มาตรการตรวจสอบเข้มงวดกับสถานที่หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคแบบกลุ่มก้อน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายหรือเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ เข้มงวดในการตรวจสอบสถานที่หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค เช่น โรงงาน สถานที่พักของแรงงานต่างด้าว หรือสถานที่อื่น ๆ ให้เป็นไปตามเงื่อนไข เงื่อนเวลา การจัดระบบและระเบียบ รวมทั้งมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด

อนึ่ง เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชนหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะจึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้งตามมาตรา 30 วรรคสอง (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539

หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ อาจเป็นความผิดตามมาตรา 51 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือมาตรา 52 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และอาจได้รับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน