สธ.คาดปีนี้ ฉีดวัคซีนโควิด 119 ล้านโดส เก็บตกฉีดเข็มแรกอายุ 3-11 ปี 6 ล้านคน ฉีดไฟเซอร์เด็ก 12-17 ปี พบ ด.ญ.มั่นใจกว่า หวั่นโรงเรียนคลัสเตอร์ใหม่

เมื่อวันที่ 4 ต.ค.2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงถึงการฉีดวัคซีนว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19 เดิมสิ้น ก.ย.มีเป้าหมายฉีด 40 ล้านโดส ขณะนี้ข้อมูลถึงวันที่ 3 ต.ค. ฉีดแล้ว 55 ล้านโดส จะเห็นว่าได้มากกว่าแผนเยอะ เกิดจากความร่วมมือของประชาชน ทั้งนี้ ปี 2564 เดิมมีแผนฉีด 70 ล้านโดส เพิ่มมาเป็น 100 ล้านโดส ขณะนี้วางแผนเป็น 120 ล้านโดส คาดว่าสิ้นปีจะฉีดเข็มหนึ่งได้ 60 ล้านโดส เข็มสอง 52 ล้านโดส และเข็มสาม 7 ล้านโดส รวม 119 ล้านโดส

ส่วนปี 2565 จะฉีดรวม 86 ล้านโดส ได้แก่ เข็ม 1 สำหรับคนที่ตกค้างในปี 2564 โดยเฉพาะอายุ 3-11 ปี ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนตัวใดที่ อย.รับรองให้ฉีดได้ แต่คาดว่าจะมีการรับรองวัคซีนในเร็วๆ นี้ จะวางแผนปี 2565 ว่าเด็กอีก 6 ล้านคนหรือตกค้างจะได้รับเข็มหนึ่ง และต้องฉีดเข็ม 2 ต่อเนื่องจะมีอีก 14 ล้านคน (ผู้ที่ยังไม่ได้เข็ม 2 ในปี 2564 ประมาณ 8 ล้านคน และเข็ม 2 ในเด็ก 3-11 ปีอีก 6 ล้านคน) และเข็ม 3 คาด 66 ล้านโดส รัฐบาลจึงให้กรมควบคุมโรคไปจัดหาวัคซีน ซึ่งสัปดาห์ที่แล้ว มีการเซ็นสัญญาแอสตร้าเซนเนก้า 60 ล้านโดส ส่วนที่เหลือทยอยทำสัญญา เพื่อให้มีวัคซีนเพียงพอในปี 2565

นพ.โอภาสกล่าวว่า วันนี้เริ่มฉีดวัคซีนในเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปเป็นวันแรก จากการไปร่วมงานคิกออฟ เห็นว่านักเรียนหญิงค่อนข้างมั่นใจ ส่วนนักเรียนผู้ชายยังกล้าๆ กลัวๆ เมื่อถามก็พบว่า นักเรียนหญิงเคยฉีดวัควีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกเมื่อตอนอยู่ชั่น ป.6 มาแล้ว จึงคุ้นเคยกับการฉีด ส่วนเด็กผู้ชายไม่เคยฉีดเลยรู้สึกไม่มั่นใจ ยืนยันวัคซีนมีความปลอดภัย เพราะผ่าน อย.รับรอง และ WHO รับรองประสิทธิภาพและความปลอดภัย ระยะแรกจัดสรร ม.4-6 ปวช. ปวศ. หรือเทียบเท่า และ ม.1-3 ต่อไป ขึ้นกับความสะดวกของโรงเรียนและจังหวัดนั้นๆ จะตกลงกัน

นพ.โอภาสกล่าวว่า ส่วนกลุ่มโฮมสคูลที่ไม่อยู่ในระบบ จะจัดสรรวัคซีนไปที่จังหวัดและนัดลงทะเบียนการฉีดในระยะต่อไปให้ติดตามข้อมูลข่าวสาร ส่วนนักเรียนต่างชาติในระบบที่ตรวจสอบได้ หากประสงค์จะฉีดก็ฉีดให้ทั้งหมด ไม่ว่าโรงเรียนสอนศาสนา โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน หรือหรือโรงเรียนทหาร ถ้าอายุเกิน 18 ปี ต้องฉีดสูตรซิโนแวค ตามด้วยแอสตร้าฯ แต่ถ้าในโรงเรียนฉีดไฟเซอร์กันทั้งหมด หากประสงค์จะฉีดก็อนุโลมฉีดไฟเซอร์ให้

นพ.โอภาสกล่าวว่า ส่วนการสอบถามเรื่องอาการข้างเคียงจากวัคซีน mRNA ทั้งไฟเซอร์ โมเดอร์นา ในเรื่องกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ถ้ามีการอักเสบจะเจ็บแน่นหน้าอก หายใจหอบ เหนื่อย ใจสั่น รายที่เป็นมากอาจเป็นลม หมดสติ หัวใจวายได้ เป็นอาการพบใหม่หลังฉีดไปเยอะแล้ว พบสัมพันธ์กับการฉีดวัคซีน mRNA ปกติพบอาการนี้ 10-20 คนต่อประชากรแสนคนต่อปี ไม่ว่าสาเหตุใดก็ตาม แต่พอฉีด mRNA พบว่าการเกิดหัวใจอักเสบมากขึ้น กลไกเกิดจากอะไรยังไม่เป็นที่เข้าใจกันดีนัก

ส่วนใหญ่เกิดในเด็กชายอายุ 12-18 ปี ส่วนใหญ่เกิดในการฉีดเข็มที่ 2 โดยเฉพาะ วันแรกถึงวันที่ 5 จะพบบ่อยสุด ในผู้ชายอายุ 12-17 ปี พบ 6 คนต่อแสนคน อาการไม่รุนแรงหายเองได้ บางส่วนต้องรักษาใน รพ.

ทั้งนี้ ประเทศไทยที่เรามีวัคซีนไฟเซอร์บริจาค เราฉีดให้เด็กไป 1.3 แสนคน พบอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ 4 คน อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานใกล้เคียงประเทศอื่น การฉีดวัคซีนต้องชั่งระหว่างผลดีและผลเสีย แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าการฉีดประโยชน์มีมากกว่าผลข้างเคียง จึงแนะนำให้ฉีดนักเรียนต่อไป ซึ่ง สธ.ติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด

เมื่อถามว่าหลังเปิดเทอมจะมีการติดเชื้อมากขึ้นหรือไม่ นพ.โอภาสกล่าวว่า จากประสบการณ์หลายประเทศ พบว่าโรงเรียนเป็นอีกจุดหนึ่งติดเชื้อไปยังนักเรียนและครู มาตรการที่ทำคือ จัดสถานศึกษาให้มีความปลอดภัย การกิจกรรมทำร่วมกันต้องเคร่งครัด โดยเฉพาะรับประทานอาหารร่วมกัน ครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องฉีดวัคซีน 100% ขณะนี้ฉีดแล้ว 80-90% ซึ่ง ศธ.จะไปเร่งรัดให้ครบ

ขณะที่ตัวนักเรียนเอง เราจึงฉีดเพื่อป้องกันการติดเชื้อและป่วยรุนแรง แต่วัคซีนไม่ใช่จุดเดียวในการป้องกันการแพร่ระบาด การเว้นระยะห่าง ใส่หน้ากาก การทำความสะอาดสถานที่ การทำกิจกรรมร่วมกัน ขอให้เคร่งครัด รวมถึงเฝ้าระวังโดยเฉพาะโรงเรียนประจำ อาจต้องมีการตรวจ ATK เป็นระยะ ซึ่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดต้องไปกำหนดว่าจะตรวจอย่างไร สธ.จะติดตามรายงานการระบาดเป็นคลัสตอร์ไม่ให้การระบาดเกิดขึ้นเร็ว

เมื่อถามถึงการฉีดวัคซีนอายุ 3-11 ปี ในปี 2565 จะเป็นวัคซีนตัวไหน นพ.โอภาสกล่าวว่า ขึ้นกับวัคซีนที่ผ่านการรับรองคุณภาพและความปลอดภัยการฉีดในเด็กจาก อย. ซึ่งมีหลายตัวที่กำลังรวบรวมข้อมูลยื่นให้ อย.พิจารณาอยู่ เชื่อว่าวัคซีนที่ฉีดหลายชนิดมีความปลอดภัยในเด็ก แต่รอข้อมูลทางการ คาดว่าไม่เกินปีหน้า จะมีวัคซีนมาฉีดในเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน