สลดเด็ก 3 เดือน ไม่มีโรคประจำตัว ดับจากโควิด ยอดติดเชื้อในเรือนจำพุ่งสูงขึ้น ไม่มีจังหวัดไหนติดเชื้อเป็น 0 เผย 10 จังหวัดติดเชื้อสูงสุด

วันที่ 12 ต.ค.64 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) เผยแพร่ข้อมูลสถานการณ์โควิด 19 ประจำวันว่า วันนี้ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อใหม่ 9,445 ราย สะสม 1,730,364 ราย หายป่วย 11,452 ราย สะสม 1,604,355 ราย เสียชีวิต 84 ราย สะสม 17,835 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 108,174 ราย อยู่ใน รพ. 40,412 ราย รพ.สนามและอื่นๆ 67,762 ราย มีอาการหนัก 2,954 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 660 ราย

ภาพรวมผู้ติดเชื้อวันนี้มาจาก 67 จังหวัดรวมกันสูงสุด 5,254 ราย 4 จังหวัดชายแดนใต้ 1,999 ราย กทม.และปริมณฑล 1,978 ราย เรือนจำ 201 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศมี 13 ราย ได้แก่ สวีเดน 8 ราย เป็นคนไทยอาชีพรับจ้าง เข้าพักใน Organization Quarantine ฟินแลนด์ 2 ราย , สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา และเมียนมา ประเทศละ 1 ราย

เสียชีวิต 84 ราย

ผู้เสียชีวิต 84 ราย มาจาก 29 จังหวัด ได้แก่ สมุทรปราการ ปัตตานี จังหวัดละ 12 ราย , กทม. 11 ราย , ตาก ยะลา จังหวัดละ 4 ราย , นครศรีธรรมราช ชลบุรี จันทบุรี จังหวัดละ 3 ราย , นนทบุรี สมุทรสาคร นครราชสีมา หนองบัวลำภู เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ระยอง จังหวัดละ 2 ราย และ ปทุมธานี อุดรธานี สุรินทร์ สกลนคร มหาสารคาม แพร่ แม่ฮ่องสอน ชุมพร สระบุรี และสมุทรสงคราม จังหวัดละ 1 ราย

สลดเด็ก 3 เดือนดับ

ผู้เสียชีวิตเป็นชาย 49 ราย หญิง 35 ราย อายุ 3 เดือน – 92 ปี ค่ากลางอายุ 68 ปี โดยเป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 59 ราย คิดเป็น 70% อายุต่ำกว่า 60 ปี มีโรคเรื้อรัง 19 ราย คิดเป็น 23% รวม 2 กลุ่มนี้สูง 93% อายุน้อยกว่า 60 ปีไม่มีโรคเรื้อรัง 5 ราย คิดเป็น 6% และเด็ก 1 ราย คิดเป็น 1% อายุ 3 เดือน ไม่มีโรคประจำตัว เสียชีวิตนอก รพ. 1 ราย ที่มหาสารคาม ตรวจพบหลังเสียชีวิต

ภาพรวมการติดเชื้อทั่วประเทศวันนี้ลดลง และต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 7 วัน ยกเว้นการติดเชื้อในเรือนำที่พบเพิ่มขึ้นและสูงกว่าค่าเฉลี่ย 7 วัน โดยจังหวัดที่ติดเชื้อเกิน 100 รายมี 27 จังหวัด

10 อันดับติดเชื้อสูงสุด

โดย 10 อันดับที่ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ 1.กทม. 1,170 ราย สะสม 381,396 ราย 2.ปัตตานี 566 ราย สะสม 26,616 ราย 3.ชลบุรี 511 ราย สะสม 94,450 ราย 4.ยะลา 493 ราย สะสม 30,619 ราย 5.นราธิวาส 473 ราย สะสม 29,327 ราย

6.สงขลา 467 ราย สะสม 35,838 ราย 7.สมุทรปราการ 425 ราย สะสม 116,499 ราย 8.นครศรีธรรมราช 361 ราย สะสม 19,886 ราย 9.ระยอง 315 ราย สะสม 35,950 ราย และ 10.สุราษฎร์ธานี 214 ราย สะสม 14,779 ราย

สำหรับ 17 จังหวัดที่เหลือ ได้แก่ ปราจีนบุรี 202 ราย , เชียงใหม่ 194 ราย , ขอนแก่น 181 ราย , ราชบุรี 173 ราย , อุดรธานี 168 ราย , พัทลุง 165 ราย , ตาก 160 ราย , ภูเก็ต 151 ราย , ตรัง 148 ราย , จันทบุรี 146 ราย , นนทบุรี 140 ราย , นครราชสีมา 128 ราย , กระบี่ 127 ราย , สระบุรี 127 ราย , สมุทรสาคร 120 ราย , ชุมพร 111 ราย และฉะเชิงเทรา 100 ราย

ติดเชื้อต่ำกว่า 20 ราย มี 20 จังหวัด

ขณะที่ติดเชื้อต่ำกว่า 20 ราย มี 20 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ 15 ราย , อุทัยธานี 13 ราย , พิจิตร 11 ราย , ลำพูน 11 ราย , ลำปาง 10 ราย , ร้อยเอ็ด 9 ราย , สกลนคร 9 ราย , ยโสธร 8 ราย , หนองคาย 6 ราย , อุตรดิตถ์ 5 ราย , ชัยนาท 4 ราย , สุโขทัย 4 ราย , แพร่ 4 ราย , พะเยา 3 ราย , สิงห์บุรี 3 ราย , อำนาจเจริญ 3 ราย , น่าน 2 ราย , นครพนม 2 ราย , มุกดาหาร 2 ราย และบึงกาฬ 1 ราย

สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด 19 วันที่ 11 ต.ค. ฉีดเพิ่มขึ้น 805,146 โดส สะสม 61,033,251 โดส แบ่งเป็นเข็มแรก 35,462,170 ราย คิดเป็น 49.2% ของประชากร เข็มสอง 23,796,497 ราย คิดเป็น 33% ของประชากร และเข็มสาม 1,774,584 ราย คิดเป็น 2.5% ของประชากร