ฉีดไฟเซอร์ นร.เกือบ 5 แสนโดส ยังไม่พบอาการรุนแรง-กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจ่อเคาะ 20 ต.ค.นี้ ฉีดเข็ม 2 ด.ช.หรือไม่ ก่อนรับเข็ม 2 วันที่ 25 ต.ค.

วันที่ 12 ต.ค.64 นพ.เฉวตสรร นามวาท ผอ.กองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โรคโควิด 19 และการฉีดวัคซีน ว่า วันนี้ประเทศไทยมีการผู้หายป่วย 11,452 ราย สูงกว่าการติดเชื้อใหม่ที่พบ 9,445 ราย ภาพรวมการติดเชื้ออยู่ในต่างจังหวัด 57% 4 จังหวัดชายแดนใต้ 22% กทม.และปริมณฑล 21%

ส่วนผู้เสียชีวิตพบ 84 ราย พผู้ป่วยปอดอักเสบอาการรุนแรง 2,954 ราย อยู่ใน กทม. 1,084 ราย 4 จังหวัดใต้ 232 ราย จังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 19 จังหวัด 673 ราย และจังหวัดอื่นๆ 48 จังหวัด 965 ราย ถือว่าแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง

พื้นที่มีแนวโน้มขยับขึ้นต่อเนื่องคือ 4 จังหวัดใต้ และจังหวัดอื่นที่เกี่ยวเนื่อง โดยมีมาตรการต่างๆ ระดมลงไปเพื่อควบคุมโรค ส่วนใส่ท่อช่วยหายใจพบ 660 ราย ลดลงมาเช่นกัน ทั้งนี้ การรายงานแต่ละวันอาจมีการแกว่งตัว แต่แนวโน้มถือว่าลดลง เป็นทิศทางที่ดี แนวโน้มการระบาดสามารถรับมือได้อย่างดีและลดลง

ส่วนการฉีดวัคซีนมีรายงานเพิ่ม 805,146 โดส สะสม 61,033,251 โดส เป็นเข็มแรก 35.4 ล้านโดส 49.2% ซึ่งเราตั้งเป้าหมายสิ้น ต.ค.ให้ได้ 50% คาดว่าน่าจะทำได้ก่อนกำหนดหรือเกินเป้าหมาย เข็ม 2 อยู่ที่ 23.7 ล้านโดส คิดเป็น 33% ซึ่งขณะนี้เราฉีดสุตรไขว้ โดยฉีดเข็มซิโนแวคเข็มแรก เว้นห่าง 3-4 สัปดาห์แล้วฉีดเข็ม 2 แอสตร้าเซนเนก้า ดังนั้น 3 – 4สัปดาห์ถัดไป ตัวเลขการแดเข็ม 2 ก็จะได้ถึง 50% ตามมา ส่วนเข็มสาม 1.77 ล้านโดส คิดเป็น 2.5%

สำหรับการฉีดไฟเซอร์ในนักเรียนมีความก้าวหน้าต่อเนื่อง ขณะนี้ฉีดแล้ว 499,046 โดส อย่างไรก็ตาม การฉีดในโดยใช้สถานศึกษาซึ่งเป็นการฉีดนอก รพ. อาจไม่ได้รายงานเข้าระบบแบบทันทีเหมือนฉีดใน รพ.หรือจุดฉีด สธ.ที่ดำเนินการในประชาชนทั่วไป จึงเร่งรัดให้รายงานต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ขอให้นักเรียนอย่าหลงเชื่อข่าวปลอมหรือไม่มีมูลความจริงในโซเชียลมีเดีย ที่สร้างความวิตกกังวล ขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากแหล่งทางการ มีนักวิชาการตรวจสอบยืนยัน

“สำหรับการฉีดนักเรียนขณะนี้ในระบบยังไม่มีรายงานอาการไม่พึงประสงค์อะไรที่น่ากังวล ส่วนที่มีรายงานอาการรุนแรงเป็นการฉีดก่อนหน้านั้น อย่างไรก็ตาม ระบบรายงานอาการไม่พึงประสงค์ต้องมีการตรวจสอบการเก็บข้อมูลในพื้นที่ บางทีอาจจะไม่ได้เร็วแบบวันต่อวัน แต่จะทยอยมาเรื่อยๆ แต่ที่ฉีดมายังไม่มีข้อกังวลใดๆ” นพ.เฉวตสรรกล่าวและว่า

ส่วนการพิจารณาการฉีดเข็ม 2 ของเด็กชาย คณะอนุกรรมการวิชาการน่าจะมีการประชุมหาข้อสรุปได้ในวันที่ 20 ต.ค. นี้ ซึ่งจะมีการรวบรวมข้อมูลการฉีดข็ม 1 ในเด็กชาย เพราะมีข้อสงสัยในพื้นที่มาเช่นกัน โดยคนที่ฉีดเข็มที่ 1 วันที่ 4 ต.ค. หากนับ 21 วันเพื่อฉีดเข็ม 2 ก็คือวันที่ 25 ต.ค. ก็จะให้ได้ข้อสรุปออกมาให้ชัดก่อนวันรับเข็ม 2

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน