สธ.ยังไม่กำหนดประเทศ เข้าไทยไม่ต้องกักตัว รับเฉพาะเดินทางทางอากาศ เข้ามาแล้วตรวจหาเชื้ออีกรอบ คาดนำร่องจังหวัดมีสนามบินก่อน
เมื่อวันที่ 14 ต.ค.64 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด หรือ ศบค.ชุดใหญ่ ว่า ที่ประชุมหารือหลายเรื่อง เช่น ปรับเวลาเคอร์ฟิว การเร่งฉีดวัคซีนให้ครบ 70-80% ของประชากรภายในสิ้นปีนี้ การจัดมาตรการพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว
ทั้งนี้ นโยบายเปิดประเทศเพื่อรับผู้เดินทางจากต่างประเทศวันที่ 1 พ.ย.64 ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการ โดยขอให้ศูนย์ปฏิบัติการ(ศปก.)ศบค. สรุปมาตรการและรายละเอียดต่างๆ ทั้งหมดอีกครั้ง ขณะนี้ยังไม่มีกำหนดนัดประชุมออกมา คาดว่าในสัปดาห์นี้ แต่เชื่อว่าจะเริ่มเปิดประเทศได้ตามกำหนด 1 พ.ย.
“เบื้องต้นยังไม่กำหนดประเทศที่พิจารณาให้เดินทางเข้ามาโดยไม่ต้องกักตัว ซึ่ง ศปก.ศบค.จะต้องไปหารือกันก่อน แต่หลักเกณฑ์จะพิจารณาจาก 1.ผู้เดินทางต้องฉีดวัคซีนครบโดส 2.ตรวจหาเชื้อด้วย RT-PCR ก่อนเดินทางมาถึง 3.สถานการณ์ระบาดของประเทศต้นทาง เป็นต้น
ส่วนข้อกังวลโควิดสายพันธุ์อื่น เช่น เบตา ต้องเรียนว่าเราเปิดให้เดินทางเฉพาะช่องทางอากาศ ซึ่งเข้ามาตามระบบ มีการตรวจหาเชื้อด้วย RT-PCR ซ้ำอีก 1 ครั้งเมื่อเดินทางมาถึง” นพ.โอภาสกล่าว
เมื่อถามว่าการพักคอยระหว่างรอผลตรวจ RT-PCR (One night Quarantine) นพ.โอภาส กล่าวว่า เบื้องต้นเห็นชอบให้พักที่โรงแรมตามระบบสถานกักกันโรคทางเลือก (ASQ) และเพิ่มเติมคือ โรงแรมที่ได้รับมาตรฐานการรับรอง SHA Plus จากกรมอนามัย ไม่ใช่จองได้ทุกโรงแรม
โดยเมื่อเดินทางมาถึงก็ต้องไปยังที่พักทันที โรงแรมจะต้องมีโรงพยาบาลคู่สัญญาทำการตรวจ RT-PCR ให้ผู้เข้าพักที่ห้องพัก และรายงานผลตรวจ ซึ่งในส่วนนี้เรายังไม่ได้หารือผู้ประกอบการ ต้องรอรายละเอียดหลังจากหารือร่วมกับ ศปก.ศบค.
เมื่อถามว่าจังหวัดที่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาโดยไม่ต้องกักตัว นพ.โอภาส กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าจะเป็นจังหวัดที่มีสนามบินรองรับสายการบินระหว่างประเทศ เพราะเราเปิดเฉพาะช่องทางอากาศเท่านั้น
ตอนนี้ที่เปิดแล้วจะมีภูเก็ต ต่อไปก็คาดว่าจะเป็นสนามบินสุวรรณภูมิ ในอนาคตก็อาจพิจารณา สนามบินอู่ตะเภา สนามบินเชียงใหม่ ตามความพร้อมของพื้นที่ ซึ่งยังไม่เคาะในวันนี้ เราต้องไปดูรายละเอียดอีกครั้งก่อน
